สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 138/2525

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 138/2525

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม. 112, 116, 119

ผู้ประกันทำสัญญาประกันจำเลยต่อศาลชั้นต้น ต่อมาศาลชั้นต้นสั่งปรับผู้ประกันอ้างว่าผิดสัญญาประกัน แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับโดยฟังว่าผู้ประกันยังมิได้ผิดสัญญาประกันเช่นนี้สัญญาประกันยังไม่สิ้นสุด หลังจากนั้นผู้ประกันไม่ส่งตัวจำเลยต่อศาลในวันนัดสืบพยานโจทก์ตามคำสั่งศาลชั้นต้น ย่อมถือว่าผู้ประกันผิดสัญญาประกัน เพราะสัญญาประกันมีผลผูกพันผู้ประกันอยู่จนกว่าผู้ประกันจะนำจำเลยส่งมอบต่อศาล

เนื้อหาฉบับเต็ม

คดีสืบเนื่องจากโจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสี่กล่าวหาว่ากระทำผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค และผู้ประกันทั้งสองได้ทำสัญญาประกันจำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 ต่อศาลชั้นต้น ต่อมาศาลชั้นต้นสั่งปรับผู้ประกันทั้งสองฐานผิดสัญญาประกัน แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับเป็นไม่ปรับ ศาลชั้นต้นจึงสั่งนัดสืบพยานโจทก์ต่อไปและมีคำสั่งให้ผู้ประกันทั้งสองส่งตัวจำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 ต่อศาล ครั้นถึงวันนัดผู้ประกันที่ 2 ขอเลื่อนการส่งตัวจำเลย ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตและมีคำสั่งว่าผู้ประกันทั้งสองผิดสัญญาประกัน ให้ปรับเต็มตามสัญญาประกัน ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน แต่เนื่องจากผู้ประกันที่ 2 นำจำเลยที่ 2 ที่ 3 ส่งศาล ศาลชั้นต้นจึงลดค่าปรับตามสัญญาประกันสำหรับจำเลยที่ 2 ที่ 3 จากคนละแปดหมื่นบาทตามสัญญาเหลือคนละหนึ่งหมื่นบาทต่อมาผู้ประกันที่ 2 ยื่นคำร้องขอลดค่าปรับสำหรับจำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 อีกศาลชั้นต้นไม่อนุญาต

ผู้ประกันที่ 1 ที่ 2 อุทธรณ์ อ้างว่าการที่ศาลอุทธรณ์สั่งเพิกถอนคำสั่งปรับของศาลชั้นต้น และศาลชั้นต้นไม่ได้ให้ผู้ประกันทำสัญญาประกันใหม่หรือตกลงให้ถือสัญญาเดิม สัญญาประกันเดิมย่อมสิ้นสุดโดยปริยาย ผู้ประกันจึงหลุดพ้นจากข้อผูกพันตามสัญญาประกัน

ระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ ผู้ประกันที่ 1 ขอถอนอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งอนุญาต และพิพากษายืน

ผู้ประกันที่ 2 ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามสัญญาประกันข้อ 1 กำหนดว่า ข้าพเจ้าสัญญารับประกันตัวนางบุญเรือง อู่ธนา นายสถิตย์ อิงคนินันท์ และนายเกรียงศักดิ์สมุทรักษ์ จำเลยคดีนี้ เพื่อให้ศาลปล่อยชั่วคราวจนกว่าข้าพเจ้าได้นำนางบุญเรืองอู่ธนา นายสถิตย์ อิงคนินันท์ และนายเกรียงศักดิ์ สมุทรักษ์ มอบตัวต่อศาลและศาลสั่งให้ถอนประกันหรือปล่อยตัวไป และสัญญาข้อ 2 มีว่า ในระหว่างประกันนี้ข้าพเจ้าหรือนางบุญเรือง อู่ธนา นายสถิตย์ อิงคนินันท์ และนายเกรียงศักดิ์สมุทรักษ์ จะปฏิบัติตามนัดหรือหมายเรียกของเจ้าพนักงานหรือศาลมิฉะนั้นข้าพเจ้ายอมรับผิดชอบใช้เงินเป็นจำนวนคนละแปดหมื่นบาทให้แก่ศาลจนครบเมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าศาลชั้นต้นนัดสืบพยานโจทก์วันที่ 23 กรกฎาคม 2522เวลา 13.30 นาฬิกา ในวันดังกล่าวปราฏว่าศาลชั้นต้นยังมิได้มีคำสั่งให้ผู้ประกันทั้งสองส่งตัวจำเลยทั้งสามต่อศาล ศาลอุทธรณ์จึงไม่ปรับผู้ประกันทั้งสองเห็นว่าเงื่อนไขในสัญญาประกันที่ผู้ประกันที่ 2 ทำไว้ต่อศาล เมื่อศาลยังไม่ได้สั่งให้ถอนประกันหรือปล่อยตัวจำเลย สัญญาประกันที่ทำไว้ยังคงมีผลผูกพันผู้ประกันที่ 2อยู่จนกว่าผู้ประกันที่ 2 จะนำตัวจำเลยมามอบคืนต่อศาล เมื่อผู้ประกันที่ 2ส่งตัวจำเลยตามนัดไม่ได้ ย่อมถือว่าผู้ประกันที่ 2 ผิดสัญญาประกัน

สำหรับฎีกาของผู้ประกันที่ 2 ที่ขอลดค่าปรับลงอีกนั้น ศาลฎีกาเห็นชอบด้วยกับดุลพินิจของศาลล่างทั้งสองที่ปรับผู้ประกันสำหรับจำเลยรวม 3 คนเป็นเงิน 100,000 บาท

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - นายไพโรจน์ เกษมกุลศิริ โจทก์ - ผู้ประกัน โจทก์ - นายเสริม คอนสลัด กับพวก จำเลย - สหกรณ์ผู้เลี้ยงสุกร จำกัด กับพวก

ชื่อองค์คณะ สำเนียง ด้วงมหาสอน สนิท อังศุสิงห์ ปรีชา พานิชวงศ์

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE