โจทก์ทั้งสี่ฟ้องขอให้เพิกถอนคำสั่งของจำเลย เรื่อง ไม่รับจดทะเบียนโจทก์ทั้งสี่เป็นกรรมการสมาคมพนักงานรัฐวิสาหกิจธนาคารกรุงไทย และให้จำเลยรับจดทะเบียนให้โจทก์ทั้งสี่เป็นกรรมการสมาคมดังกล่าวนับแต่วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2538 เป็นต้นไป

จำเลยให้การว่า โจทก์ที่ 1 มีตำแหน่งเป็นผู้จัดการสาขาอาวุโส ต้องห้ามมิให้เป็นสมาชิกหรือกรรมการของสมาคมรัฐวิสาหกิจคำสั่งของนายทะเบียนสมาคมพนักงานรัฐวิสาหกิจชอบด้วยกฎหมายขอให้ยกฟ้อง

ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้อง

โจทก์ทั้งสี่อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า พระราชบัญญัติพนักงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ. 2534 มาตรา 4 วรรคสาม บัญญัติว่า"พนักงานหมายความว่า พนักงานและลูกจ้างของรัฐวิสาหกิจแต่ไม่หมายความรวมถึงฝ่ายบริหาร" และวรรคสี่ บัญญัติว่า"ฝ่ายบริหาร หมายความว่า พนักงานรัฐวิสาหกิจตั้งแต่ระดับหัวหน้ากองหรือเทียบเท่าขึ้นไป และหมายความรวมถึงผู้อำนวยการ ผู้ว่าการกรรมการผู้จัดการใหญ่ กรรมการผู้จัดการ และผู้จัดการด้วย"โจทก์ทั้งสี่เป็นหัวหน้าหน่วยงานโดยเป็นพนักงานในตำแหน่งผู้จัดการสาขาของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจถือได้ว่าโจทก์ทั้งสี่เป็นผู้จัดการอันเป็นฝ่ายบริหารตามความหมายของพระราชบัญญัติพนักงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ. 2534มาตรา 4 วรรคสี่ หาใช่เป็นเพียงพนักงานตามบทกฎหมายดังกล่าวในมาตรา 4 วรรคสาม ไม่ ทั้งนี้โดยไม่จำต้องพิจารณาว่าโจทก์ทั้งสี่มีอำนาจเด็ดขาดในการพิจารณาให้คุณให้โทษแก่ผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยตนเองดังที่โจทก์ทั้งสี่อุทธรณ์กล่าวอ้างหรือไม่ และด้วยเหตุที่โจทก์ทั้งสี่เป็นฝ่ายบริหาร โจทก์ทั้งสี่จึงไม่มีสิทธิเป็นสมาชิกหรือกรรมการของสมาคมพนักงานรัฐวิสาหกิจธนาคารกรุงไทยทั้งนี้ตามพระราชบัญญัติพนักงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ. 2534มาตรา 4, 30, 35

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา