ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นบุตรนายริด บัวมี มารดาโจทก์ตายไปนานแล้ว ต่อมานายริดได้จำเลยเป็นภริยาแล้วตายไปเมื่อ พ.ศ. 2504 ก่อนตายนายริดได้ทำพินัยกรรมไว้ ยกสิทธิที่ดินปลูกบ้านซึ่งเช่าจากกรมศิลปากรให้โจทก์ครึ่งหนึ่งของเนื้อที่ที่เช่า จำเลยขัดขวางไม่ยอมให้โจทก์ใช้สิทธิในที่ดินส่วนของโจทก์ ขอให้บังคับให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย

จำเลยให้การว่า นายริดไม่ใช่สามีที่ถูกต้องตามกฎหมายของจำเลยจำเลยแต่ผู้เดียวเป็นผู้เช่าที่ดินกับกรมศิลปากร นายริดไม่เคยทำสัญญาเช่าเลยจะทำพินัยกรรมยกสิทธิที่พิพาทให้โจทก์เช่าครึ่งหนึ่ง หาได้ไม่

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า นายริดกับจำเลยอยู่กินเป็นสามีภริยากัน แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน ทรัพย์สินที่หามาได้ในระหว่างอยู่กินด้วยกันจึงมีสภาพเหมือนทรัพย์สินของหุ้นส่วนสิทธิการเช่าก็เป็นทรัพย์สิน นายริดมีส่วนอยู่ครึ่งหนึ่ง การที่นายริดทำพินัยกรรมยกสิทธิการเช่าที่จำเลยเช่ามาครึ่งหนึ่งให้โจทก์ จึงเป็นการทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินส่วนของตนให้แก่โจทก์พิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าสิทธิการเช่าที่พิพาทเป็นสิทธิเฉพาะตัวของจำเลยผู้เช่าแต่ผู้เดียวที่มีต่อกรมศิลปากร แม้นายริดจะเป็นสามีจำเลยก็ถือว่าเป็นบุคคลภายนอก จะเข้ามามีส่วนตามสัญญาเช่าด้วยไม่ได้ พินัยกรรมยกสิทธิการเช่าให้โจทก์เป็นอันไร้ผล พิพากษากลับให้ยกฟ้อง

ศาลฎีกาฟังว่า โจทก์เป็นบุตรนายริดกับนางปิ่น นางปิ่นถึงแก่กรรมนายริดได้จำเลยเป็นภริยา แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสจำเลยทำสัญญาเช่าที่ดินพิพาทจากกรมศิลปากรเป็นครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2503 ต้องต่ออายุการเช่าทุกปี ครั้งสุดท้ายจำเลยทำสัญญาเช่าไว้เมื่อ พ.ศ. 2509 นายริดถึงแก่กรรมเมื่อ พ.ศ. 2504 ในปีนั้นนายริดได้ทำพินัยกรรมไว้ ยกทรัพย์สินให้โจทก์ ข้อ 3 ของพินัยกรรมมีว่า ที่ดินมีหนังสือแจ้งการครอบครองบนสันคู เป็นสภาพที่ปลูกบ้านอยู่อาศัยในจำนวนครึ่งของที่ดินทั้งหมด ที่ดินที่กล่าวนี้คือที่ดินที่จำเลยเช่าจากกรมศิลปากร

เห็นว่า ที่ดินที่พิพาทนี้เป็นของกรมศิลปากร นายริดย่อมไม่มีสิทธิที่จะทำพินัยกรรมยกที่ดินรายนี้ให้โจทก์ ส่วนที่ว่านายริดจะมีสิทธิในที่พิพาทที่จำเลยเช่ามาด้วยหรือไม่ นั้น เห็นว่า แม้จำเลยกับนายริดจะได้อยู่อาศัยในบ้านในที่นี้ด้วยกัน แต่จำเลยก็เป็นผู้เช่าที่พิพาทในนามของจำเลยแต่ผู้เดียว หาได้ทำสัญญาเช่าแทนนายริดหรือทำเพื่อนายริดด้วยไม่ การเช่าของจำเลยเป็นสิทธิตามสัญญา ซึ่งเป็นสิทธิของจำเลยโดยเฉพาะ แม้นายริดจะเป็นสามีจำเลย ก็เป็นบุคคลภายนอกจะเข้ามามีสิทธิตามสัญญาด้วยหาได้ไม่ พินัยกรรมของนายริดในข้อนี้จึงไม่มีผลจะนำมาใช้ยันจำเลยได้

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th