ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

Lawyer CTA
สมัครเป็นทนายออนไลน์ ง่ายๆ ไม่มีค่าใช้จ่าย
เข้าถึงผู้ใช้เว็บไซต์กว่า 4 ล้านคน
ให้คำปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ค้นหามาตรา อัปเดตฎีกา ครบ จบ ในที่เดียว
ในทุกๆ ชั่วโมงมีคำปรึกษาใหม่จากลูกความ ที่รอทนายตอบอยู่
เนื้อหาฉบับเต็ม

ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้องและฟ้องแย้ง โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า "โจทก์อุทธรณ์ว่า เงินบำเหน็จตามระเบียบของจำเลยเป็นเงินสงเคราะห์ที่จ่ายให้แก่ลูกจ้างสำหรับความดีความชอบที่ได้ทำงานด้วยความเรียบร้อยเป็นเวลาต่อเนื่องกันและต้องออกจากงานโดยไม่มีความผิดทางวินัย เป็นการจ่ายโดยมีวัตถุประสงค์ที่ยิ่งกว่าการให้เงินจำนวนหนึ่งแก่ลูกจ้างเมื่อเลิกจ้าง จึงไม่ใช่ค่าชดเชยตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ขอให้ศาลฎีกาพิพากษากลับคำพิพากษาศาลแรงงานกลาง โดยให้จำเลยจ่ายค่าชดเชย 17,160 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ย ได้พิเคราะห์แล้ว ตามคำพิพากษาศาลแรงงานกลางนั้นก็มิได้วินิจฉัยว่าเงินบำเหน็จตามระเบียบของจำเลยถือได้เป็นค่าชดเชย และเห็นว่าโจทก์มีสิทธิได้รับค่าชดเชยไม่น้อยกว่า 17,160 บาท จึงตั้งปัญหาว่าจำเลยจะต้องจ่ายค่าชดเชย 17,160 บาทแก่โจทก์นอกเหนือไปจากเงินจำนวน 62,920 บาทที่จำเลยได้จ่ายให้แก่โจทก์ตามระเบียบคุรุสภาว่าด้วยการจ่ายเงินบำเหน็จ เงินทำขวัญ และเงินช่วยเหลือในการทำศพเจ้าหน้าที่คุรุสภา พ.ศ. 2503 อีกหรือไม่ ปรากฏว่าตามระเบียบข้อ 5 วรรคสุดท้าย มีความว่า "ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ผู้ใดมีสิทธิได้รับทั้งเงินชดเชยตามประกาศกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยกำหนดเวลาทำงาน วันหยุดของลูกจ้าง การใช้แรงงานหญิงและเด็ก การจ่ายค่าจ้าง ฯลฯ อยู่แล้วไม่มีสิทธิได้รับเงินบำเหน็จตามระเบียบนี้ แต่ถ้าเงินชดเชยนั้นมีจำนวนต่ำกว่าเงินบำเหน็จที่จะพึงได้ตามระเบียบนี้เท่าใด ก็ให้จ่ายเงินบำเหน็จให้เท่ากับส่วนที่ต่ำกว่านั้น" ศาลแรงงานกลางจึงแปลความหมายว่า ถ้าลูกจ้างของจำเลยมีสิทธิได้รับค่าชดเชยตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน และค่าชดเชยนั้นมีจำนวนสูงกว่าเงินบำเหน็จ ก็ไม่มีสิทธิได้รับบำเหน็จ แต่ถ้าค่าชดเชยต่ำกว่าเงินบำเหน็จ ก็มีสิทธิได้รับเงินบำเหน็จเฉพาะส่วนที่เกินกว่าค่าชดเชยเท่านั้น มิใช่จะมีสิทธิได้รับทั้งค่าชดเชยตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานและเงินบำเหน็จทั้งหมดตามระเบียบว่าด้วยการจ่ายบำเหน็จด้วย ตามระเบียบดังกล่าวจำเลยจึงมีหน้าที่จ่ายเงินบำเหน็จให้แก่โจทก์เพียงเฉพาะส่วนที่เกินกว่าค่าชดเชยเท่านั้น คิดแล้วจำเลยต้องจ่ายเงินบำเหน็จให้แก่โจทก์เพียง 45,760 บาท ที่จำเลยจ่ายเงินให้โจทก์ไปทั้งสิ้น 64,920 บาทนั้น จึงเห็นได้ว่าจำเลยได้จ่ายค่าชดเชยจำนวน 17,160 บาทให้แก่โจทก์ด้วยแล้วโจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องเรียกค่าชดเชยจากจำเลยอีก ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยคำวินิจฉัยของศาลแรงงานกลาง เพราะเทียบได้กับคำพิพากษาฎีกาที่ 479/2524 ระหว่างพันเอกวัลลภ สิริภูบาล โจทก์ องค์การผลิตอาหารสำเร็จรูป (อสร.) กระทรวงกลาโหม จำเลย"

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา เนติบัณฑิตยสภา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th