ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยนี้ได้ยื่นฟ้องโจทก์เป็นจำเลยในคดีแพ่งหมายเลขดำที่ 116/2516 หมายเลขแดงที่ 181/2516 ของศาลจังหวัดกาญจนบุรี หาว่าโจทก์รุกล้ำที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ของจำเลย คดีดังกล่าวถึงที่สุดโดยศาลฎีกาพิพากษาว่า คดีขาดอายุความ ที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ โจทก์ได้เข้าครอบครองทำประโยชน์โดยเปิดเผยโดยสงบด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ หลังจากคดีดังกล่าวถึงที่สุด โจทก์ได้แจ้งให้จำเลยจดทะเบียนนิติกรรมแบ่งแยกที่ดินส่วนที่เป็นของโจทก์ออกจากที่ดินของจำเลยตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ให้เป็นชื่อของโจทก์ จำเลยทราบแล้วบิดพลิ้วไม่จัดการให้ ขอให้พิพากษาแสดงว่าที่ดินตามแผนที่ท้ายฟ้องในวงเส้นสีแดงเป็นของโจทก์ ห้ามจำเลยและบริวารเกี่ยวข้องให้จำเลยจดทะเบียนนิติกรรมแบ่งแยกที่ดินตามแผนที่ท้ายฟ้องในวงเส้นสีแดงออกจากที่ดินของจำเลยตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ และลงชื่อโจทก์เป็นเจ้าของที่ดินที่แบ่งแยก หากจำเลยไม่ปฏิบัติก็ให้ถือเอาคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาของจำเลย

จำเลยให้การว่าตามคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 181/2516 ศาลมิได้พิพากษาให้จำเลยจดทะเบียนนิติกรรมให้แก่โจทก์ตามฟ้อง ไม่มีมูลหนี้ที่จำเลยจะต้องทำการจดทะเบียนนิติกรรมแบ่งแยกที่ดินให้แก่โจทก์ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ที่ดินตามแผนที่พิพาทหมายสีแดงในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 181/2516 ของศาลจังหวัดกาญจนบุรี เป็นของโจทก์ ห้ามจำเลยและบริวารเกี่ยวข้อง ให้จำเลยไปจดทะเบียนนิติกรรมแบ่งแยกที่ดินที่โจทก์ครอบครองให้โจทก์ หากไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาของจำเลย

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่พิพาทซึ่งมีเขตที่ดินตามแผนที่พิพาทสีแดงในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 181/2516 ของศาลจังหวัดกาญจนบุรีเป็นของโจทก์ ตามคำพิพากษาของศาลฎีกาแล้วและแม้ว่าที่พิพาทนี้จะรวมอยู่ในที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ของจำเลยก็ตาม แต่จำเลยก็ไม่มีหน้าที่อย่างใด ที่จะต้องไปจัดการโอนที่พิพาทให้เป็นของโจทก์ หากที่พิพาทยังมีชื่อจำเลยเป็นเจ้าของในหนังสือรับรองการทำประโยชน์อยู่โจทก์ก็มีสิทธิฟ้องขอให้เพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ของจำเลยเฉพาะส่วนที่ออกทับที่พิพาทซึ่งเป็นของโจทก์เท่านั้นแต่การที่โจทก์ฟ้องเป็นคดีนี้ ก็พอจะแปลความหมายได้ว่าโจทก์ประสงค์จะได้ที่ดินกลับคืนมาเป็นชื่อของโจทก์นั่นเอง ฉะนั้นแม้คำขอของโจทก์จะขอให้จำเลยจดทะเบียนแบ่งแยกให้ แต่เมื่อศาลเห็นว่าไม่สมารถจะบังคับให้ได้ คงบังคับได้แต่เพียงให้เพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์เฉพาะส่วนดังกล่าวเท่านั้น ศาลก็ชอบที่จะพิพากษาเช่นนั้นได้

พิพากษากลับ ให้เพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ของจำเลยเฉพาะส่วนที่ออกทับที่พิพาทตามแผนที่พิพาทหมายสีแดงในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 181/2516 ของศาลจังหวัดกาญจนบุรีซึ่งเป็นของโจทก์

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th