ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 เป็นนิติบุคคลมีจำเลยที่ 2 เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการจำเลยจ้างโจทก์เป็นลูกจ้างประจำตำแหน่งครั้งสุดท้ายเป็นพนักงานบัญชี ต่อมาจำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยไม่มีความผิด เป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานฯ พ.ศ. 2522 มาตรา 49 ทำให้โจทก์เสียหาย จำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้า จ่ายค่าจ้างไม่ครบ และไม่จ่ายค่าชดเชย ขอให้ศาลบังคับจำเลยจ่ายค่าจ้างค้างชำระ สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าและค่าเสียหายพร้อมดอกเบี้ย

จำเลยทั้งสองให้การว่าโจทก์มิได้เป็นพนักงานบัญชีแต่มีหน้าที่ต้องปฏิบัติงานทุกอย่างตามที่จำเลยมอบหมาย เหตุที่จำเลยเลิกจ้างเพราะโจทก์ปฏิเสธไม่ยอมทำงานในโครงการการ์ดเพื่อความประหยัดของวัยรุ่นตามที่จำเลยมอบหมายอันเป็นการขัดคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมายหลายครั้ง และโจทก์ขาดงาน เป็นการผิดสัญญาจ้างแรงงาน ขัดคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายของจำเลยและละทิ้งหน้าที่การงานเป็นเวลาเกินกว่าสามวันทำงานติดต่อกันโดยไม่มีเหตุอันสมควรเพราะเป็นการกระทำอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริตจำเลยมีสิทธิเลิกจ้างโจทก์โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า ไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยและค่าเสียหายค่าจ้างค้างชำระเพราะโจทก์ทำงานไม่เต็มเดือน

ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า ค่าจ้างค้างชำระและค่าชดเชยพร้อมดอกเบี้ย

จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า ศาลแรงงานกลางมิได้วินิจฉัยชี้ขาดข้อเท็จจริงในประเด็นว่า โจทก์พิมพ์หนังสือตอบรับ (สมาชิก) เข้าร่วมโครงการไม่เสร็จ และโจทก์ไม่เต็มใจต้อนรับบุคคลที่จะสมัครเป็นสมาชิกในโครงการอันจะเป็นการขัดคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายของจำเลยเป็นกรณีร้ายแรงหรือไม่แต่หากโจทก์ได้กระทำการดังกล่าวจริงก็หาเป็นการขัดคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายของจำเลยทั้งสองอันเป็นกรณีที่ร้ายแรงไม่ เพราะเมื่อโจทก์ไม่ยอมทำ จำเลยก็มิได้ถือว่าเป็นความผิด แต่กลับอ้อนวอนให้โจทก์ช่วยทำเป็นหลายครั้ง เมื่อการกระทำของโจทก์ไม่เป็นการขัดคำสั่งกรณีที่ร้ายแรงอันต้องด้วยข้อยกเว้นตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงาน ข้อ 47(3) การที่จำเลยเลิกจ้างโจทก์จึงต้องบอกกล่าวล่วงหน้าและต้องจ่ายค่าชดเชย

ข้อที่จำเลยอุทธรณ์ขอให้นำประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 583มาปรับแก่คดี ซึ่งจำเลยมีสิทธิเลิกจ้างโจทก์โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้านั้นปรากฏว่าข้อเท็จจริงที่จำเลยยกขึ้นอ้างในอุทธรณ์ไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 583 จะนำบทมาตราดังกล่าวมาปรับแก่คดีหาได้ไม่

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th