ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277วรรคแรก, 317 วรรคสาม

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 277 วรรคแรก ลงโทษจำคุก 4 ปี ตามมาตรา 317 วรรคสามลงโทษจำคุก 5 ปี รวมโทษจำคุก 9 ปี จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนและในชั้นพิจารณานำสืบยอมรับว่าเป็นผู้พาผู้เสียหายไป จึงเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 6 ปี

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 277 วรรคแรก จำเลยอายุยังไม่เกินยี่สิบปีลดมาตราส่วนโทษให้แก่จำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 76 กึ่งหนึ่ง แล้วจำคุก 2 ปี จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนและทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้แก่จำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 หนึ่งในสามคงจำคุกจำเลย 1 ปี4 เดือน ส่วนข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 317 วรรคสามให้ยกฟ้อง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยฐานพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 317 วรรคสามด้วย

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าเด็กหญิงมณีรัตน์ดวงรัตน์ อายุ 14 ปีเศษรักใคร่ฉันชู้สาวกับจำเลยมาก่อน และสมัครใจไปอยู่กับจำเลยที่บ้านนายชูชาติซึ่งเป็นญาติจำเลยและเป็นเจ้าของอู่ซ่อมรถในตำบลไทยเจริญ อำเภอประคำ จังหวัดบุรีรัมย์เป็นเวลาประมาณ 1 เดือน โดยในระหว่างนั้นเด็กหญิงมณีรัตน์ได้กินอยู่หลับนอนและร่วมประเวณีกับจำเลยโดยสมัครใจหลายครั้งจนกระทั่งบิดามารดาเด็กหญิงมณีรัตน์ตามไปพบและนำเด็กหญิงมณีรัตน์กลับบ้าน โดยบอกให้เด็กหญิงมณีรัตน์กลับบ้านเพื่อไปเรียนหนังสือต่อ เด็กหญิงมณีรัตน์รู้สึกไม่สบายใจในการอยู่อาศัยกับบิดามารดาเพราะบิดามารดาทะเลาะกันเป็นประจำ จำเลยไม่เคยมีภรรยามาก่อนเมื่อเด็กหญิงมณีรัตน์กลับบ้านแล้ว มารดาจำเลยได้มาเจรจาสู่ขอเด็กหญิงมณีรัตน์แต่ตกลงกันไม่ได้ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อมารดาเด็กหญิงมณีรัตน์ตามไปพบ และบอกให้เด็กหญิงมณีรัตน์กลับบ้านโดยอ้างเหตุที่ให้เด็กหญิงมณีรัตน์กลับบ้านว่า เพื่อให้กลับไปเรียนหนังสือต่อเด็กหญิงมณีรัตน์จึงยอมกลับบ้านโดยมีจำเลยติดตามมาด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กหญิงมณีรัตน์รักใคร่ฉันชู้สาวกับจำเลยมาก่อน และสมัครใจไปอยู่กินหลับนอนกับจำเลยที่บ้านญาติจำเลยเป็นเวลาประมาณ 1 เดือนเศษ และได้เสียกับจำเลยหลายครั้งทั้งไม่ปรากฏว่าจำเลยมีภรรยา จึงไม่เป็นการพาไปเพื่อการอนาจารการกระทำของจำเลยไม่เป็นการพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดาเพื่อการอนาจาร อนึ่งเมื่อคำนึงถึงพฤติการณ์แห่งการกระทำผิดและอายุของจำเลย ทั้งไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน ศาลฎีกาเห็นสมควรให้โอกาสจำเลยได้กลับตัวเป็นพลเมืองดีต่อไป โดยให้รอการลงโทษจำคุกจำเลยไว้

พิพากษาแก้เป็นว่า โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th