ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง
คำปรึกษามากกว่า
10,000+
ทนายความตัวจริง
500+


โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเป็นคนไทยได้สมรสกับคนต่างด้าวชาติจีนแล้วจำเลยได้ขอรับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนคนต่างด้าว ตามใบสำคัญเลขที่ 464 ลงวันที่ 4/12/2480จำเลยขาดต่ออายุใบสำคัญประจำตัวตั้งแต่วันที่ 8 กรกฎาคม 2487ขอให้ลงโทษ
จำเลยให้การว่าเป็นคนไทยและต่อสู้หลายประการ ทั้งตัดฟ้องว่าฟ้องโจทก์ไม่แน่นอนว่าจำเลยเป็นคนสัญชาติจีนตามกฎหมายใด
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดพระราชบัญญัติการทะเบียนคนต่างด้าว (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2495 มาตรา 4 ปรับ 100 บาท ลดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 59 กึ่งหนึ่งคงปรับ 50 บาท
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยไม่มีผิดดังฟ้องพิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าโจทก์จำเลยไม่สืบพยาน ตามฟ้องโจทก์และคำให้การจำเลยที่รับกันฟังได้ว่าจำเลยเป็นคนไทย โจทก์ไม่ได้สืบว่ากฎหมายประเทศจีนยอมรับภรรยาให้มีสัญชาติตามสามี ฉะนั้นจำเลยจึงยังเป็นคนไทยอยู่ ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่เห็นว่าเรื่องนี้จำเลยปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าพนักงานและรับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวเพราะได้สมรสกับสามีซึ่งเป็นคนต่างด้าว มิใช่เป็นการรับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวโดยสมัครใจ จึงไม่ต้องด้วยมาตรา 16 ทวิแห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2496 จำเลยยังไม่ขาดสัญชาติไทย จึงไม่ผิดตามฟ้องพิพากษายืน
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา








