ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำสัญญาว่าจ้างโจทก์ปลูกสร้างบ้านและครัวเป็นเงินค่าจ้างทั้งค่าของและค่าแรงงานรวม 471,150 บาท โดยแบ่งชำระเป็นงวด ๆตามส่วนของงานที่จะมีการส่งมอบและรับมอบกันในแต่ละช่วง จำเลยจะมาตรวจรับมอบงานภายใน 7 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากโจทก์ ถ้าจำเลยไม่มาตรวจรับมอบงานตามกำหนดหรือในกรณีที่ถือได้ว่าจำเลยเข้าครอบครองต่อเติม หรือกระทำด้วยประการหนึ่งประการใดในอาคารดังกล่าว ก็ให้ถือว่าจำเลยได้รับมอบงานแล้วโดยปริยาย เมื่อโจทก์ปลูกสร้างบ้านเสร็จ จำเลยได้รับหนังสือบอกกล่าวแล้วไม่มาตรวจรับตามสัญญา ทั้งได้เข้าครอบครองอาคารดังกล่าว ถือได้ว่าจำเลยรับรองงานแล้วโดยปริยาย จำเลยจะต้องชำระค่าจ้างที่ค้างพร้อมดอกเบี้ย แต่จำเลยไม่ชำระ ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินดังกล่าวแก่โจทก์

จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า โจทก์มิได้ปลูกสร้างบ้านให้ถูกต้องและเสร็จตามสัญญา โจทก์ไม่มีสิทธิรับเงินค่าจ้างงวดสุดท้าย และเนื่องจากโจทก์ปลูกบ้านไม่แล้วเสร็จ จำเลยต้องเข้าดำเนินการเองคิดเป็นเงิน 100,000 บาทโจทก์ผิดสัญญาจำเลยขอคิดค่าเสียหายวันละ 200 บาทเป็นเงิน 57,200 บาทขอให้ยกฟ้องและให้โจทก์ชำระค่าเสียหายแก่จำเลย

โจทก์ให้การฟ้องแย้งว่า โจทก์มิได้ผิดสัญญา โจทก์ส่งมอบบ้านให้จำเลยแล้วภายในกำหนดตามข้อสัญญา ขอให้ยกฟ้องแย้งโจทก์

ระหว่างสืบพยานโจทก์ คู่ความท้ากันในประเด็นเดียวกันการที่จำเลยย้ายทะเบียนบ้านเข้าอยู่ในบ้านที่ก่อสร้าง จะถือว่าจำเลยได้รับมอบบ้านที่ก่อสร้างไปจากโจทก์แล้วหรือไม่เป็นข้อแพ้ชนะ หากถือว่าจำเลยยังไม่ได้รับมอบแล้วโจทก์ยอมแพ้ ถ้าถือว่าจำเลยได้รับมอบบ้านพิพาทแล้วจำเลยยอมแพ้ โดยขอให้ศาลวินิจฉัยประเด็นที่ท้าเพียงข้อเดียว ตามพยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบไปแล้วประกอบกับสัญญาข้อ 6 สำหรับประเด็นอื่น ๆ โจทก์จำเลยยอมสละทั้งสิ้นจำเลยไม่ติดใจบังคับตามฟ้องแย้ง

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยได้รับมอบบ้านที่ก่อสร้างจากโจทก์แล้ว โจทก์ต้องเป็นฝ่ายแพ้คดีตามคำท้าพิพากษายกฟ้องโจทก์

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่จำเลยแจ้งย้ายทะเบียนบ้านเข้าอยู่ในบ้านพิพาทเป็นเรื่องที่จำลยปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมายในเรื่องการแจ้งทะเบียนบ้านเท่านั้นจะแปลไปว่าจำเลยได้รับมอบบ้านที่ก่อสร้างแล้วยังไม่ได้เพราะการที่จำเลยรับมอบบ้านพิพาทหรือไม่นั้น จำต้องมีข้อเท็จจริงให้ได้ความชัดถึงการแสดงเจตนาโดยชัดแจ้งหรือโดยปริยายของจำเลยว่ายอมรับมอบบ้านพิพาทแต่โจทก์นำสืบว่าจำเลยยังไม่ได้รับมอบบ้านพิพาท ทั้งได้ความจากจำเลยว่า จำเลยย้ายทะเบียนบ้านมาอยู่ในบ้านพิพาทเพื่อนำบุตรเข้าศึกษาต่อในกรุงเทพมหานคร ยังไม่เพียงพอที่จะแสดงว่าจำเลยมารับมอบบ้านพิพาท ดังนี้ การที่จำเลยย้ายทะเบียนบ้านเข้าอยู่ในบ้านพิพาทถือไม่ได้ว่าจำเลยรับมอบบ้านที่ก่อสร้างจากโจทก์ โจทก์เป็นฝ่ายแพ้คดีตามคำท้า

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th