คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1463/2525
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 386
โจทก์จำเลยทำสัญญากันโดยจำเลยยอมแบ่งที่นาพิพาทให้โจทก์และโจทก์ยอมยกกระบือและแบ่งเงินกับข้าวเปลือกให้จำเลยสัญญาดังกล่าวจึงเป็นสัญญาต่างตอบแทน จำเลยจะบอกเลิกสัญญากับโจทก์ได้จะต้องมีเหตุที่ระบุไว้ในข้อสัญญาว่าให้บอกเลิกสัญญาได้ หรือมีเหตุอื่นที่กฎหมายให้อำนาจจำเลยบอกเลิกสัญญาได้ จำเลยจะบอกเลิกสัญญาโดยอ้างเหตุแต่เพียงว่าข้อสัญญาไม่เป็นไปตาม ความประสงค์ของจำเลย โดยโจทก์ไม่ยินยอมด้วยหาได้ไม่ เพราะโจทก์ มิได้เป็นฝ่ายผิดสัญญาและตามข้อสัญญาก็มิได้ให้สิทธิจำเลยที่จะ เลิกสัญญาเพราะเหตุดังกล่าวได้
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์จำเลยได้ทำสัญญาแบ่งทรัพย์สินซึ่งบิดามารดาของโจทก์จำเลยทำมาหาได้ด้วยกัน โดยจำเลยยอมแบ่งที่ดินพิพาทให้โจทก์ ส่วนโจทก์ยินยอมยกกระบือข้าวเปลือกและเงินให้จำเลย จำเลยไม่ไปจดทะเบียนแบ่งที่ดินพิพาทให้โจทก์ จึงขอให้บังคับจำเลยจดทะเบียนแบ่งที่ดินพิพาทให้โจทก์
จำเลยให้การว่า จำเลยจะแบ่งที่ดินให้โจทก์โดยมีเงื่อนไขว่า โจทก์ต้องยอมให้จำเลยอาศัยอยู่ด้วยตลอดไป แต่สัญญาที่โจทก์นำมาฟ้องไม่ได้ระบุเงื่อนไขให้ครบถ้วน จำเลยจึงได้บอกเลิกสัญญากับโจทก์แล้ว ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยจดทะเบียนแบ่งที่ดินพิพาทให้โจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยไม่ได้ยินยอมแบ่งที่พิพาทให้โจทก์โดยเสน่หาแต่โจทก์ต่างมีฐานะเป็นเจ้าหนี้ลูกหนี้ซึ่งกันและกัน สัญญาดังกล่าวจึงมีลักษณะเป็นสัญญาต่างตอบแทนข้อที่จำเลยอ้างว่าได้บอกเลิกสัญญากับโจทก์แล้วนั้นเห็นว่าเหตุที่จำเลยจะเลิกสัญญาได้จะต้องเป็นไปตามที่ระบุไว้ในข้อสัญญาหรือมีเหตุอื่นที่กฎหมายให้อำนาจจำเลยบอกเลิกสัญญาไว้ ดังนั้น จำเลยจะบอกเลิกสัญญาโดยอ้างเหตุแต่เพียงว่า ข้อสัญญาไม่เป็นไปตามความประสงค์ของจำเลยโดยโจทก์ไม่ยินยอมหาได้ไม่ เพราะไม่ใช่เป็นเหตุจากฝ่ายโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาแต่ประการใด และตามข้อสัญญาก็มิได้ให้สิทธิจำเลยที่จำขอเลิกสัญญาเพราะเหตุดังกล่าวได้
พิพากษายืน
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ชื่อคู่ความ โจทก์ - นายปิ่น แดงดารา จำเลย - นางสาวเสริง แดงดารา
ชื่อองค์คณะ อุดม บรรลือสินธุ์ ชลูตม์ สวัสดิทัต กิติ บูรพรรณ์
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan