ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

ข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยทั้งสองในคดีนี้ได้ถูกฟ้องต่อศาลมณฑลทหารบกที่ 4 (ศาลจังหวัดอุตรดิตถ์) ตามคดี อ.ดำที่ 8/2506 ว่า เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2506 เวลากลางวันติดต่อถึงเวลากลางคืนหลังเที่ยง จำเลยทั้ง 2 นี้กับนายเติ๊งได้ร่วมกันสมคบกันฉุดคร่าพานางสาวสังขยาไปเพื่อการอนาจารโดยใช้ปืนขู่ ใช้กำลังกายฉุดคร่าพานางสาวสังขยาไปเพื่อให้จำเลยที่ 1 ข่มขืนกระทำชำเรา เป็นเหตุให้นางสาวสังขยาถูกข่มขืนกระทำชำเราหลายครั้ง ดังได้ยื่นฟ้องจำเลยที่ 1 กับพวกฐานสมคบกันข่มขืนกระทำชำเราต่อศาลจังหวัดอุตรดิตถ์เป็นคดีหนึ่งต่างหากแล้ว เหตุเกิดที่ตำบลนาอิน อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ จำเลยทั้ง 2 นี้กับนายเติ๊งให้การรับสารภาพ ศาลนั้นได้พิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสองนี้กับนายเติ๊งฐานพาหญิงไปเพื่อการอนาจารตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ไปแล้วตามคดีแดงที่ 4/2506

ในวันเดียวกันนั้นเอง จำเลยทั้งสองนี้ก็ได้ถูกฟ้องเป็นจำเลยในคดีนี้ว่าเมื่อคืนระหว่างวันที่ 5 กับ 6 มกราคม 2506 จำเลยได้ร่วมสมคบกันข่มขืนกระทำชำเรานางสาวสังขยาซึ่งมิใช่ภริยาของตนโดยจำเลยที่ 1 ใช้กำลังกายกอดปล้ำจับให้นอนหงายจำเลยที่ 2 ช่วยจับหัวไหล่และแขนไม่ให้ดิ้น แล้วจำเลยที่ 1 กระทำชำเราสำเร็จความใคร่ 1 ครั้ง ต่อมาคืนเดียวกันนั้น จำเลยที่ 1 ข่มขืนชำเรานางสาวสังขยาอีก 2 ครั้ง ทั้งนี้โดยนางสาวสังขยาอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้เหตุเกิดที่ตำบลนาอิน ตำบลบ้านหม้อ อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 276 และนับโทษต่อจากคดีอาญาดำที่ 8/2506 ของศาลทหารดังกล่าวข้างต้นนั้นด้วย จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ลงโทษจำเลยตามฟ้อง

คดีขึ้นมาสู่ศาลฎีกาตามฎีกาของจำเลยว่า การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียววาระเดียวกันหรือไม่

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า แม้คำฟ้องในคดีนั้น (คดีศาลทหาร) จะปรากฏว่าฉุดคร่าเมื่อ 5 มกราคม 2506 กลางวันติดต่อกลางคืนหลังเที่ยง และในคดีนี้จะปรากฏว่าข่มขืนกระทำชำเราระหว่างวันที่ 5 กับ 6 มกราคม 2506 ติดต่อกันเวลากลางคืนก็ดี เวลาและสถานที่ก็ยังต่างกัน การกระทำฉุดคร่าก็เป็นคนละอย่างต่างกับการกระทำชำเรา

แม้จะบรรยายฟ้องว่า ฉุดไปเพื่อให้จำเลยที่ 1 ข่มขืนกระทำชำเราก็ไม่แสดงว่าการฉุดคร่ากับการชำเราได้กระทำลง ได้เป็นไปในขณะเดียวกันการที่นายเติ๊งถูกฟ้องว่าสมคบร่วมกันฉุดคร่าด้วย แต่มิได้ถูกฟ้องว่าสมคบร่วมกันข่มขืนกระทำชำเรา ก็ส่อแสดงว่าการฉุดคร่าเสร็จเป็นการขาดตอนไปแล้ว ต่อมาจึงมีการข่มขืนกระทำชำเราขึ้นในตอนหลัง เป็นคนละตอนต่างหากจากกัน ถึงแม้ศาลจะได้พิพากษาเสร็จเด็ดขาดในคดีฉุดคร่า ก็ไม่ได้ชื่อว่ามีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดข่มขืนกระทำชำเราซึ่งได้ฟ้อง

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th