ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147,157 และให้จำเลยคืนเงินที่ยักยอกไปแก่ผู้เสียหาย

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 จำคุก 5 ปี และให้จำเลยคืนเงิน 71,150 บาท แก่ผู้เสียหาย

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงเบื้องต้นฟังได้ว่าขณะเกิดเหตุจำเลยรับราชการเป็นหัวหน้างานการเงินของโรงพยาบาล ตำรวจมีหน้าที่ควบคุมดูแลการรับจ่ายเงินของโรงพยาบาลตราด และเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมาย เมื่อเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลตราดเจ็บป่วยเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลตราดในฐานะผู้ป่วยคนไข้นอกเจ้าหน้าที่ดังกล่าวไม่ต้องชำระเงินค่ารักษาพยาบาล แต่ต้องลงชื่อในใบเบิกเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล(แบบ บก.-ชล.3) ไว้ในฐานะเป็นผู้เบิกเงินและผู้รับเงินค่ารักษาพยาบาล หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลตราดจะรวบรวมใบเบิกเงินดังกล่าวทำเป็นรายการเบิกเงินค่ารักษาพยาบาลแบบ บก.-ชล.4 แล้วทำฎีกาขอเบิกเงินจากคลังจังหวัด เมื่อคลังจังหวัดอนุมัติจ่ายเงินตามฎีกานั้นจะโอนเงินจากคลังจังหวัดเข้าบัญชีเงินฝากบัญชีเลขที่ 889 ที่ธนาคารกรุงไทย จำกัดสาขาตราด ซึ่งเป็นบัญชีเงินงบประมาณของโรงพยาบาลตราด และโดยที่เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลตราดที่เป็นผู้ป่วยคนไข้นอกของโรงพยาบาลตราดไม่ได้ชำระเงินค่ารักษาพยาบาลให้แก่โรงพยาบาลตราดเงินดังกล่าวจึงไม่ต้องจ่ายให้แก่เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลตราดตามรายการที่ขอเบิกไว้ แต่จะเบิกเงินจากบัญชีเลขที่ 889 โอนเข้าบัญชีเลขที่ 890 ที่ธนาคารกรุงไทยจำกัดสาขาตราด ซึ่งเป็นบัญชีเงินบำรุงของโรงพยาบาลตราดต่อไปตามวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุตามฟ้องเงินค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยคนไข้นอกดังกล่าวของโรงพยาบาลตราดจำนวน 71,150 บาท ขาดหายไปจากบัญชีเงินบำรุงของโรงพยาบาลตราดที่ธนาคารกรุงไทยจำกัดสาขาตราด

คดีมีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามที่โจทก์ฎีกาว่า จำเลยได้กระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานยักยอกเงินค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยคนไข้นอกของโรงพยาบาลตราดจำนวน 71,150 บาท หรือไม่พยานหลักฐานของโจทก์มีน้ำหนักฟังได้ว่าจำเลยได้นำเช็คเอกสารหมาย จ.5 ซึ่งเป็นเช็คขีดคร่อมสั่งจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยคนไข้นอกออกจากบัญชีเลขที่ 889 ที่ธนาคารกรุงไทยจำกัดสาขาตราด ซึ่งเป็นบัญชีเงินงบประมาณของโรงพยาบาลตราดไปเข้าบัญชีเลขที่ 890 ที่ธนาคารกรุงไทย จำกัด สาขาตราดซึ่งเป็นบัญชีเงินบำรุงของโรงพยาบาลตราดและเรียกเก็บเงินตามเช็คดังกล่าวเข้าบัญชีเลขที่ 890 ได้เรียบร้อยในวันที่ 31 สิงหาคม2537 แล้ว จำเลยจึงไม่ได้เบิกเงินค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยคนไข้นอกจำนวน 71,150 บาท จากบัญชีเงินฝากของโรงพยาบาลตราดแล้วเบียดบังเงินจำนวนดังกล่าวของโรงพยาบาลตราดไปจำเลยจึงไม่มีความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์สินตามฟ้อง และแม้จะฟังข้อเท็จจริงได้ตามคำเบิกความของนายบุญต่อและร้อยตำรวจเอกสุวิทย์พยานโจทก์ดังกล่าวว่าจำเลยนำเงินสดซึ่งเป็นเงินรายได้ของโรงพยาบาลตราดที่ได้รับมาในวันที่ 31 สิงหาคม 2527 ที่ไม่ใช่เงินที่เบิกมาจากเงินงบประมาณแผ่นดินของโรงพยาบาลตราดจ่ายเป็นค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยคนไข้นอกที่เป็นเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลตราดที่ได้รับการรักษาจากโรงพยาบาลตราดตามฎีกาเลขที่ 266 ถึง 272 กับฎีกาเลขที่ 284 ถึง 285 เอกสารหมาย จ.46ถึง จ.54 อีกครั้งหนึ่ง แล้วเบียดบังเงินจำนวนดังกล่าวไปโดยทุจริตแต่โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้เบิกเงินค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยคนไข้นอกจากบัญชีเงินฝากของโรงพยาบาลตราดจำนวน 71,150 บาท แล้วจำเลยเบียดบังเงินจำนวนดังกล่าวไปโดยทุจริต ดังนั้นเมื่อเงินจำนวน71,150 บาท ที่จำเลยเบียดบังไปจากเงินสดซึ่งเป็นเงินรายได้ของโรงพยาบาลตราดที่ได้รับมา ไม่ใช่เงินที่เบิกมาจากเงินงบประมาณแผ่นดินของโรงพยาบาลตราด เป็นเงินคนละจำนวนกับเงินจำนวนที่โจทก์ฟ้องว่าจำเลยยักยอกไป ข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในการพิจารณาจึงแตกต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้องในข้อสาระสำคัญไม่อาจลงโทษจำเลยในความผิดฐานยักยอกเงินจำนวนดังกล่าวได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสอง

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th