ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง
คำปรึกษามากกว่า
10,000+
ทนายความตัวจริง
500+


โจทย์ฟ้องว่าจำเลยทำสัญญาจะขายที่ดินโฉนดที่ ๗๐๓๙ เปนเงิน ๑๗๖๐ บาท
จำเลยต่อสู้ว่าไม่ได้ทำสัญญาจะขาย เพียงแต่กู้เงินโจทย์มาแล้วเอาโฉนดให้จำเลยยึดไว้
ได้ความตามรายงานพิจารณาของศาลเดิมว่านายเพิ่มจำเลยเปนผู้เขียนสัญญาซึ่งมีข้อความ เอาโฉนดที่ดินมาขายให้ แต่ยังไม่ได้หักโอนเงินยังค้าง ๒๘๐ บาท แต่เถียงว่าจำเลยได้ตกลงขายให้โจทย์เปนเงิน ๒๕๖๐ บาท เหตุที่ไม่ยอมขายก็เพราะโจทย์จะให้เงินแต่เพียง ๑๗๖๐ บาท เท่านั้น
ศาลเดิมแลศาลอุทธรณ์ตัดสินโดยไม่คำนึงถึงรายงานพิจารณาว่าสัญญานั้นเปนสัญญากู้เงินไม่ใช่สัญญาจะขาย ให้ยกฟ้องโจทย์
โจทย์ฎีกาเปนข้อกฎหมายว่า ศาลล่างแปลความประสงค์ของสัญญาผิดไป
ฎีกาตัดสินว่าเมื่อคู่ความรับกันแล้วในรายงานพิจารณา ประเด็นที่จะวินิจฉัยจึงเข้าในลักษณซื้อขายไม่ใช่ลักษณกู้หนี้ ปัญหาจึงมีอยู่ว่าโจทย์จำเลยได้ตกลงราคาซื้อขายกันเท่าไรแน่ เมื่อจำเลยอ้างว่าได้ตกลงขายให้เปนจำนวนเงิน ๒๕๖๐ บาทฉนี้ ต้องเปนน่าที่นำสืบของจำเลยในข้อนี้ แต่จำเลยกลับไปนำสืบว่าสัญญานั้นเปนสัญญากู้ไม่ใช่สัญญาจะขาย ซึ่งเปนประเด็นตรงกันข้ามกับถ้อยคำของจำเลยที่ศาลบันทึกไว้ในรายงาน เมื่อจำเลยสืบไม่สมต้องฟังตามพยานหลักฐานโจทย์ว่า จำเลยสัญญาจะขายให้โจทย์เปนเงิน ๑๗๖๐ บาท แลจำเลยได้รับเงินไปครบถ้วนแล้ว ให้จำเลยโอนโฉนดให้โจทย์
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา








