สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1524/2525

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1523 - 1524/2525

พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2497 ม. 3

จำเลยออกเช็คให้แก่โจทก์โดยโจทก์ทราบดีแล้วว่า ขณะที่ออกเช็คนั้นจำเลยไม่มีทางที่จะชำระเงินตามเช็คได้ และจำเลยอยู่ในภาวะที่ถูกบีบบังคับให้ต้องออกเช็คการออกเช็คของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค

เนื้อหาฉบับเต็ม

คดีสองสำนวนนี้ศาลพิจารณาและพิพากษารวมกัน ฟ้องโจทก์ทั้งสองสำนวนมีความว่า จำเลยได้ออกเช็ค 2 ฉบับสั่งจ่ายเงินฉบับละ 300,000 บาทเพื่อชำระหนี้แก่โจทก์ แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน เป็นการออกเช็คโดยมีเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คและออกเช็คให้ใช้เงินจำนวนสูงกว่าจำนวนเงินที่มีอยู่ในบัญชีอันจะพึงใช้ได้ในขณะที่ออกเช็คนั้น ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3

ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วมีคำสั่งประทับฟ้อง

จำเลยทั้งสองสำนวนให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 ลงโทษจำคุกทั้งสองสำนวน

จำเลยทั้งสองสำนวนอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ยกฟ้องโจทก์ทั้งสองสำนวน

โจทก์ทั้งสองสำนวนฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เหตุที่จำเลยออกเช็คให้แก่โจทก์ เนื่องมาจากจำนวนเงินที่จำเลยได้จากการขายบ้านและที่ดินให้โจทก์นั้น ไม่พอชำระหนี้ที่จำเลยจำนองบ้านและที่ดินรายนี้ไว้แก่ธนาคารกรุงไทย จำกัด ซึ่งยังขาดอยู่อีกถึงหนึ่งล้านบาทเศษ ถ้าโจทก์ไม่ยอมจ่ายเงินจำนวนนี้แทนจำเลยไปก่อนแล้ว โจทก์ก็ไม่มีทางที่จะได้บ้านและที่ดินตามสัญญาจะซื้อขายที่ทำกันไว้ เพราะจำเลยไม่มีปัญญาที่จะหาเงินมาชำระหนี้จำนองได้ โจทก์จึงยอมจ่ายเงินจำนวนนี้ไปก่อน และได้ทำบันทึกให้จำเลยลงชื่อไว้ บันทึกฉบับนี้มีผลบังคับจำเลยในทางแพ่งอย่างสมบูรณ์เต็มที่อยู่แล้ว แต่โจทก์ต้องการให้ได้ผลดียิ่งขึ้น จึงให้จำเลยออกเช็คสั่งจ่ายเงินล่วงหน้าไว้ด้วย โดยเหตุผลที่ว่า ถ้าเช็คขึ้นเงินไม่ได้จำเลยก็อาจมีความผิดทางอาญา ซึ่งจะเป็นผลให้จำเลยต้องขวนขวายหาเงินมาใช้โจทก์ให้จงได้ ขณะที่จำเลยออกเช็คนั้น โจทก์ทราบดีว่าจำเลยไม่มีเงินที่จะชำระหนี้ตามเช็ค จำเลยออกเช็ค 4 ฉบับสั่งจ่ายเงินล่วงหน้าในวันเดียวกันด้วยระยะเวลาเพียงเดือนเดียวเป็นจำนวนเงินถึงหนึ่งล้านสองแสนบาทเศษ โจทก์น่าจะทราบดีว่าไม่มีทางที่จำเลยจะชำระเงินตามเช็คนี้ได้ ถ้าจำเลยสามารถหาเงินจำนวนหนึ่งล้านสองแสนบาทเศษได้ภายในเวลาเดือนเดียวก็ไม่จำเป็นต้องขอให้โจทก์จ่ายเงินทดรองไปก่อน เพราะจะต้องเสียดอกเบี้ยให้โจทก์อีกถึง15,625 บาท จำเลยควรจะขอเลื่อนกำหนดการโอนบ้านและที่ดินเท่านั้นรูปคดีฟังได้ว่า จำเลยออกเช็คทั้งสองฉบับตามฟ้องโดยโจทก์ทราบดีแล้วว่าขณะออกเช็คนั้น จำเลยไม่มีทางที่จะชำระเงินตามเช็คได้ จำเลยอยู่ในภาวะที่ถูกโจทก์บีบบังคับให้จำเลยต้องออกเช็ค การออกเช็คของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดดังที่โจทก์ฟ้อง

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - นางสาววนิดา ชินธรรมมิตร จำเลย - หม่อมเจ้าคันธรสรังษี วุฒิชัย

ชื่อองค์คณะ นิยม ติวุตานนท์ สุวัฒน์ รัตรสาร ดุสิต วราโห

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE