คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1539/2525
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม. 219
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 9 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าให้มอบตัวจำเลยแก่บิดาจำเลย ให้บิดาจำเลยระวังมิให้จำเลยก่อเหตุร้ายภายในกำหนด 3 ปีมิฉะนั้นให้บิดาจำเลยชำระเงินต่อศาลครั้งละ 500 บาททุกครั้งที่จำเลยก่อเหตุร้ายขึ้น ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 75 ประกอบด้วยมาตรา 74 วิธีการที่ศาลอุทธรณ์พิพากษากำหนดนี้เบากว่าโทษจำคุก ดังนั้นจึงถือว่าศาลอุทธรณ์ยังคงลงโทษจำเลยไม่เกินกว่าจำคุก 1 ปี หรือปรับไม่เกิน10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ คดีจึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองฐานร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจรรถจักรยานยนต์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 334, 335, 357
จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพฐานลักทรัพย์
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 335 จำเลยทั้งสองอายุไม่เกิน 17 ปีลดมาตราส่วนโทษให้กึ่งหนึ่งแล้ว จำคุกจำเลยคนละ 1 ปี 6 เดือน จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกจำเลยคนละ 9 เดือน
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้มอบตัวจำเลยทั้งสองให้แก่บิดาไปโดยให้ศาลชั้นต้นวางข้อกำหนดให้บิดาจำเลยทั้งสองระวังจำเลยทั้งสองมิให้ก่อเหตุร้ายภายในกำหนด 3 ปี หากจำเลยทั้งสองก่อเหตุร้าย ให้บิดาจำเลยทั้งสองชำระเงินต่อศาลชั้นต้นครั้งละ 500 บาททุกครั้ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 75 ประกอบด้วยมาตรา 74 แต่ถ้าบิดาจำเลยทั้งสองไม่ยอมรับข้อกำหนดดังกล่าว ก็ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำคุกจำเลยตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ศาลฎีกาเห็นว่าคดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยคนละ9 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้มอบตัวจำเลยให้แก่บิดาไป โดยให้ศาลชั้นต้นวางข้อกำหนดให้บิดาจำเลยระวังมิให้จำเลยทั้งสองก่อเหตุร้ายขึ้นภายในระยะเวลาที่กำหนด หากจำเลยทั้งสองก่อเหตุร้ายขึ้น ให้บิดาจำเลยชำระเงินต่อศาลชั้นต้นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 75ประกอบด้วยมาตรา 74 วิธีการที่ศาลอุทธรณ์พิพากษากำหนดขึ้นดังกล่าวนั้นเบากว่าโทษจำคุก ดังนั้นจึงถือว่าศาลอุทธรณ์ยังคงลงโทษจำเลยไม่เกินกว่าจำคุก 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ คดีจึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 219 การที่โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำคุกจำเลยทั้งสองตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ศาลฎีกาวินิจฉัยให้ไม่ได้
พิพากษาให้ยกฎีกาโจทก์
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ชื่อคู่ความ โจทก์ - พนักงานอัยการจังหวัดร้อยเอ็ด จำเลย - นายธีระพงษ์ คลังเรือง กับพวก
ชื่อองค์คณะ ปรีชา พานิชวงศ์ สนิท อังศุสิงห์ สำเนียง ด้วงมหาสอน
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan