ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระหนี้แก่โจทก์ หากไม่ชำระให้ยึดทรัพย์จำนองที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์เลขที่ 4907 พร้อมสิ่งปลูกสร้างของจำเลยที่ 1 และที่ 2 ออกขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้แก่โจทก์ จำเลยทั้งสามไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษา โจทก์จึงขอออกหมายบังคับคดีและนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์จำนองพร้อมสิ่งปลูกสร้าง เจ้าพนักงานบังคับคดีประกาศขายทอดตลาดทรัพย์ดังกล่าว ผู้ร้องเป็นผู้ประมูลได้ แต่ไม่ชำระราคา ต่อมาวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2554 เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์ดังกล่าวโดยปลอดจำนองให้ นางสาว จ. ผู้ซื้อทรัพย์ในราคา 2,650,000 บาท

ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้มีคำสั่งเพิกถอนการขายทอดตลาด

โจทก์ยื่นคำคัดค้านขอให้ยกคำร้อง

ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งให้เพิกถอนการขายทอดตลาดที่ดินหนังสือรับรองการทำประโยชน์เลขที่ 4907 พร้อมสิ่งปลูกสร้างของจำเลยที่ 1 และที่ 2 และให้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการขายทอดตลาดใหม่ต่อไป ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ

ผู้ซื้อทรัพย์ยื่นคำร้องขอให้ศาลยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ให้ผู้ซื้อทรัพย์ได้มีโอกาสโต้แย้งคัดค้าน

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง

ผู้ซื้อทรัพย์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ

ผู้ซื้อทรัพย์ฎีกา

ศาลฎีกาพิพากษากลับ ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาคำร้องขอเพิกถอนการขายทอดตลาดฉบับลงวันที่ 3 มีนาคม 2554 ของผู้ร้องเสียใหม่ โดยกำหนดเวลาให้ผู้ซื้อทรัพย์คัดค้านแล้วพิจารณาและมีคำสั่งใหม่ต่อไปตามรูปคดี ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลให้เป็นพับ

ผู้ซื้อทรัพย์ยื่นคำคัดค้านขอให้ยกคำร้อง

จำเลยทั้งสามไม่ยื่นคำคัดค้าน

ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งให้เพิกถอนการขายทอดตลาดที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์เลขที่ 4907 พร้อมสิ่งปลูกสร้างของจำเลยที่ 1 และที่ 2 และให้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการขายทอดตลาดใหม่ต่อไป ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ

ผู้ซื้อทรัพย์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษากลับให้ยกคำร้อง ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลให้เป็นพับ

ผู้ร้องฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงเบื้องต้นที่คู่ความไม่โต้เถียงกันรับฟังยุติว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ประกาศขายทอดตลาดสิ่งปลูกสร้างและที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์เลขที่ 4907 ของจำเลยที่ 1 และที่ 2 หลายครั้ง ผู้ร้องเป็นผู้ประมูลได้รวม 4 ครั้ง แต่ไม่ชำระราคา เจ้าพนักงานบังคับคดีต้องประกาศขายทอดตลาดใหม่ ครั้งหลังสุดผู้ร้องประมูลได้เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2553 ในราคา 3,250,000 บาท ผู้ร้องไม่ชำระราคาอีก แต่ขอขยายระยะเวลาชำระเงิน เจ้าพนักงานบังคับคดีมีคำสั่งไม่อนุญาต และประกาศขายทอดตลาดใหม่ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2554 อันเป็นครั้งที่พิพาทกันในคดีนี้ โดยในการขายทอดตลาดครั้งพิพาทนี้ผู้ซื้อทรัพย์ให้ราคา 2,650,000 บาท ผู้ร้องคัดค้านราคา แต่เจ้าพนักงานบังคับคดีวินิจฉัยว่าผู้ร้องมิใช่ผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดี จึงไม่รับฟังคำคัดค้านและเคาะไม้ขายให้ผู้ซื้อทรัพย์ในราคาดังกล่าว ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาด ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 2 วินิจฉัยว่า ผู้ร้องเป็นผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 280 (เดิม) มีสิทธิคัดค้านการขายทอดตลาดในราคาต่ำ แต่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 วินิจฉัยต่อไปว่า การขายทอดตลาดครั้งพิพาทชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 309 ทวิ (เดิม) แล้ว จึงพิพากษาให้ยกคำร้องของผู้ร้อง

คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยในชั้นฎีกาว่า มีเหตุที่จะเพิกถอนการขายทอดตลาดครั้งพิพาทนี้หรือไม่ พิเคราะห์แล้วเห็นว่า แม้ผู้ร้องจะเป็นผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 280 (เดิม) และกรณีอาจใช้สิทธิคัดค้านการขายทอดตลาดได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 309 ทวิ (เดิม) แต่การใช้สิทธิดังกล่าวต้องเป็นการใช้สิทธิโดยสุจริตด้วย กรณีนี้ผู้ร้องเป็นผู้ประมูลซื้อทรัพย์ได้ในการขายทอดตลาดครั้งก่อน แต่ผู้ร้องก็ไม่ยอมชำระราคาทรัพย์ที่ตนประมูลได้ แล้วมาคัดค้านในการขายทอดตลาดครั้งต่อไป กลายเป็นว่าบุคคลภายนอกเมื่อเข้ามาประมูลซื้อทรัพย์ได้แล้วแต่ไม่ยอมชำระราคา กลับมีสิทธิที่จะยับยั้งหรือประวิงการบังคับคดีได้เรื่อยไป ทำให้เจ้าหนี้และลูกหนี้ซึ่งเป็นคู่ความเดิมเสียหายได้จากการบังคับคดีที่ล่าช้า เมื่อข้อเท็จจริงได้ความจากผู้ร้องตอบทนายโจทก์ถามค้านว่า ผู้ร้องเป็นผู้เข้าประมูลซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาดได้ก่อนหน้าครั้งนี้ถึง 4 ครั้ง แต่กลับอ้างเหมือนกันทุกครั้งว่าไม่สามารถชำระราคาได้ทำให้เจ้าพนักงานบังคับคดีต้องขายทอดตลาดใหม่เรื่อยมา เช่นนี้ย่อมเป็นการยืนยันว่า การใช้สิทธิของผู้ร้องมิได้เป็นไปโดยสุจริต ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาด ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาให้ยกคำร้องมานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล ฎีกาของผู้ร้องฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา พ.939/2560

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th