ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนแนวปฏิบัติตามหนังสือที่ รส 0711/ว751 ลงวันที่ 25 ตุลาคม 2544 เรื่องการให้การคุ้มครองแรงงานต่างด้าวที่ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยเนื่องจากการทำงาน โดยให้มีผลทันทีนับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษา

จำเลยให้การขอให้ยกฟ้อง

ศาลแรงงานภาค 5 พิพากษายกฟ้อง

โจทก์ทั้งสามอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์ทั้งสามข้อแรกว่า การที่โจทก์ที่ 1 ยื่นฟ้องคดีนี้เป็นฟ้องซ้อนกับคดีที่โจทก์ที่ 1 เคยยื่นฟ้องนายสุรินทร์ กับพวกรวม 13 คน ในฐานะคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทน ตามคดีหมายเลขแดงที่ 124/2551 ของศาลแรงงานภาค 5 ด้วยเหตุที่เป็นการฟ้องเรื่องเดียวกันและจำเลยคนเดียวกันหรือไม่ เห็นว่า คดีก่อนที่โจทก์ที่ 1 ยื่นฟ้องไว้นั้นมีเนื้อหาคำฟ้องระบุว่าแนวปฏิบัติตามหนังสือที่ รส 0711/ว751 ลงวันที่ 25 ตุลาคม 2544 กำหนดเงื่อนไขการรับเงินทดแทนของลูกจ้างต่างด้าวจากกองทุนเงินทดแทน ทำให้โจทก์ที่ 1 ไม่อาจเข้าถึงสิทธิในเงินทดแทนจากกองทุนเงินทดแทนได้ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ใช้บังคับไม่ได้ เป็นเหตุให้คณะกรรมการกองทุนเงินทดแทนมีคำวินิจฉัยไม่จ่ายเงินทดแทนจากกองทุนเงินทดแทน ขอให้เพิกถอนคำวินิจฉัยของคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทนที่สั่งให้นายจ้างจ่ายเงินทดแทนแก่โจทก์ที่ 1 แล้วสั่งใหม่เป็นว่าให้จำเลยสั่งจ่ายเงินทดแทนจากกองทุนเงินทดแทนแก่โจทก์ที่ 1 เนื้อหาคำฟ้องเป็นเช่นเดียวกับคำฟ้องคดีนี้ที่มุ่งประสงค์ให้เพิกถอนแนวปฏิบัติฉบับเดียวกัน อันเป็นผลให้โจทก์ที่ 1 ใช้อ้างว่าแนวปฏิบัติไม่มีผลบังคับเพื่อขอรับเงินทดแทนจากกองทุนเงินทดแทน จึงเป็นการยื่นคำฟ้องเรื่องเดียวกัน ไม่ใช่เป็นการฟ้องคนละเรื่องกันกับคดีก่อนดังที่โจทก์ที่ 1 อ้างในอุทธรณ์นอกจากนี้พระราชบัญญัติเงินทดแทน พ.ศ.2537 กำหนดให้มีกองทุนเงินทดแทนในสำนักงานประกันสังคมเพื่อจ่ายเป็นเงินทดแทนแก่ลูกจ้างแทนนายจ้าง ซึ่งเงินหรือทรัพย์สินของกองทุนให้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของสำนักงานประกันสังคม โดยให้คณะกรรมการกองทุนเงินทดแทนประกอบด้วยเลขาธิการสำนักงานประกันสังคมเป็นประธานกรรมการ และผู้ทรงคุณวุฒิไม่เกินหกคนกับผู้แทนฝ่ายนายจ้างและผู้แทนฝ่ายลูกจ้างฝ่ายละสามคน ทำหน้าที่ปฏิบัติงานให้แก่สำนักงานประกันสังคมหรืออาจมอบหมายให้สำนักงานประกันสังคมเป็นผู้ปฏิบัติงานแทนได้ การที่คณะกรรมการกองทุนเงินทดแทนมีมติครั้งที่ 20/2544 ลงวันที่ 14 กันยายน 2544 โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติเงินทดแทน พ.ศ.2537 กำหนดแนวปฏิบัติให้ความคุ้มครองแรงงานต่างด้าวที่ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยเนื่องจากการทำงานให้แก่นายจ้าง ซึ่งต่อมาสำนักงานประกันสังคมถือปฏิบัติตามมติดังกล่าวโดยจัดทำหนังสือวางแนวปฏิบัติแจ้งต่อสำนักงานประกันสังคมจังหวัด เช่นนี้ คณะกรรมการกองทุนเงินทดแทนกับสำนักงานประกันสังคมจึงเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเดียวกันภายใต้พระราชบัญญัติเงินทดแทน พ.ศ.2537 หากการปฏิบัติงานของคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทนเป็นการโต้แย้งสิทธิโจทก์ที่ 1 สำนักงานประกันสังคมต้องรับผิด ดังนั้น การที่โจทก์ที่ 1 ฟ้องสำนักงานประกันสังคมเป็นจำเลยในคดีนี้กับคดีก่อนที่โจทก์ที่ 1 ฟ้องนายสุรินทร์ กับพวกรวม 13 คน ในฐานะคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทนเป็นจำเลย จึงเป็นการฟ้องในเรื่องเดียวกันโดยคู่ความเดียวกันเป็นฟ้องซ้อนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 173 (1) ประกอบพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.2522 มาตรา 31 โจทก์ที่ 1 จึงไม่มีอำนาจฟ้อง ที่ศาลแรงงานภาค 5 พิพากษามานั้นชอบแล้ว อุทธรณ์ของโจทก์ทั้งสามข้อนี้ฟังไม่ขึ้น

ปัญหาต้องวินิจฉัยอุทธรณ์ของโจทก์ทั้งสามข้อที่สองว่า การดำเนินกระบวนพิจารณาคดีนี้จะต้องนำพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542 มาใช้บังคับหรือไม่ และอำนาจฟ้องของโจทก์ที่ 2 และที่ 3 จะต้องพิจารณาว่าเป็นผู้ที่อาจจะเดือดร้อนหรืออาจจะเสียหายโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้อันเนื่องมาจากแนวปฏิบัติของจำเลยตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542 มาตรา 42 หรือไม่ เห็นว่า การดำเนินกระบวนพิจารณาคดีแรงงานต้องเป็นไปตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.2522 แต่ทั้งนี้การดำเนินกระบวนพิจารณาในบางเรื่องที่ไม่ได้บัญญัติไว้ ให้นำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งในเรื่องนั้นมาใช้บังคับแก่การพิจารณาพิพากษาคดีแรงงานได้โดยอนุโลม ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.2522 มาตรา 31 ดังนั้น จึงนำบทบัญญัติกฎหมายว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีปกครองตามที่โจทก์ทั้งสามอ้างมาใช้กับการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีนี้ซึ่งเป็นคดีแรงงานไม่ได้ รวมถึงในเรื่องอำนาจฟ้องก็ไม่อาจนำพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542 มาตรา 42 มาวินิจฉัยถึงการเป็นผู้ถูกโต้แย้งสิทธิของโจทก์ที่ 2 และที่ 3 ได้ที่ศาลแรงงานภาค 5 ดำเนินกระบวนพิจารณาคดีโดยอาศัยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.2522 และนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 ในเรื่องอำนาจฟ้องมาใช้โดยอนุโลมเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ชอบแล้ว อุทธรณ์ของโจทก์ทั้งสามข้อนี้ฟังไม่ขึ้นเช่นกัน

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th