ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีไว้ในครอบครองซึ่งเมทแอมเฟตามีนขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทพ.ศ. 2518 มาตรา 4, 5, 6, 62, 106 ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 32, 33 ริบวัตถุออกฤทธิ์ของกลาง

จำเลยให้การรับสารภาพ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 มาตรา 62 วรรคหนึ่ง,106 วรรคหนึ่ง จำคุก 1 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งจำคุก 6 เดือน โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี โดยคุมความประพฤติจำเลยไว้มีกำหนด 1 ปี และให้จำเลยไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ2 ครั้งต่อเดือน ห้ามมิให้จำเลยเกี่ยวข้องกับยาเสพติดให้โทษทุกชนิด ของกลางริบ

ต่อมาพนักงานคุมประพฤติรายงานต่อศาลชั้นต้นว่า จำเลยได้กระทำความผิดฐานร่วมกันบุกรุกเคหสถาน และต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก 6 เดือน ศาลชั้นต้นสอบถามจำเลยแล้ว จำเลยไม่คัดค้านจึงมีคำสั่งโดยอาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 57แก้ไขเปลี่ยนแปลงคำพิพากษาจากรอการลงโทษเป็นไม่รอการลงโทษให้จำคุกจำเลยมีกำหนด 6 เดือน

จำเลยอุทธรณ์ว่า ที่ศาลชั้นต้นเปลี่ยนแปลงคำพิพากษาจากรอการลงโทษเป็นไม่รอการลงโทษโดยจำเลยไม่ผิดเงื่อนไขคุมความประพฤติไม่ชอบ

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยได้ไปรายงานตัวแล้ว 2 ครั้งแต่เนื่องจากในระหว่างการคุมความประพฤติจำเลยถูกเจ้าพนักงานตำรวจจับกุมดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันบุกรุกเคหสถาน ศาลพิพากษาให้ลงโทษจำคุก 6 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยต้องโทษจำคุกอยู่ที่เรือนจำ เป็นเหตุให้จำเลยไม่สามารถไปรายงานในครั้งที่ 3ถึงครั้งที่ 5 ได้ และวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า จำเลยถูกจับกุมในวันเวลาเกิดเหตุเดียวกันในข้อหาร่วมกันบุกรุกและมีวัตถุออกฤทธิ์ไว้ในครอบครอง แต่พนักงานอัยการได้แยกฟ้องเป็นคดีร่วมกันบุกรุกและต่อมาศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นลงโทษจำคุก 6 เดือน ส่วนคดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาก่อนคดีดังกล่าวให้จำคุก 6 เดือน โดยรอการลงโทษ 2 ปี และคุมความประพฤติไว้เห็นว่าที่จำเลยมิได้ไปรายงานตัวในครั้งที่ 3 ถึงครั้งที่ 5ก็เพราะเหตุถูกจำคุกอยู่ในเรือนจำ มิได้จงใจฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขคุมความประพฤติตามที่ศาลชั้นต้นกำหนด และกรณีมิใช่จำเลยกระทำความผิดขึ้นอีกหลังจากที่มีคำพิพากษาในคดีแล้ว

พิพากษากลับเป็นว่า โทษจำคุกคงให้รอการลงโทษไว้ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นเดิมก่อนแก้ไขเปลี่ยนแปลง

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th