ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง
คำปรึกษามากกว่า
10,000+
ทนายความตัวจริง
500+


โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534 มาตรา 4 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่า คดีไม่มีมูล พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งลงชื่อในคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 อนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังได้ตามทางไต่สวนว่า จำเลยที่ 1 เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด จำเลยที่ 2 เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ โจทก์ซื้อทองคำแท่งจากจำเลยที่ 1 แล้วฝากไว้กับจำเลยที่ 1 เพื่อหวังกำไรจากราคาทองคำแท่งที่ขึ้นลงตามประกาศของสมาคมผู้ค้าทองคำโดยทำบันทึกข้อตกลงคืนทองคำแท่งที่รับฝากไว้เป็นรายสัปดาห์ หากถึงกำหนดไม่ส่งมอบทองคำแท่ง จำเลยที่ 1 จะชำระเงินแก่โจทก์แทนสัปดาห์ละ 116,000 บาท จำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 ออกเช็ค จำนวนเงิน 116,000 บาท รวม 34 ฉบับ มอบให้ไว้แก่โจทก์ เช็คทั้งสิบเอ็ดฉบับตามฟ้องเป็นเช็คที่จำเลยที่ 1 สั่งจ่ายไว้ตามสัญญาดังกล่าวข้างต้น โจทก์นำไปเรียกเก็บเงิน แต่ถูกธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน
คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า คดีโจทก์มีมูลที่จะประทับฟ้องไว้พิจารณาหรือไม่ เห็นว่า เช็คทั้งสามสิบสี่ฉบับซึ่งรวมทั้งเช็คพิพาทสิบเอ็ดฉบับตามฟ้อง จำเลยที่ 1 สั่งจ่ายจำนวนเงินเท่ากันคือ 116,000 บาท และเป็นการลงวันที่ล่วงหน้าแล้วส่งมอบให้ไว้แก่โจทก์ ในกรณีที่จำเลยที่ 1 ไม่สามารถคืนทองคำแท่งแก่โจทก์ในแต่ละสัปดาห์ได้ จำเลยที่ 1 ตกลงจะชำระเงินตามจำนวนเทียบเท่าราคาทองคำแท่ง ณ เวลาวันทำบันทึกข้อตกลงนี้ และเมื่อพิเคราะห์บันทึกข้อตกลงตามข้อ 1 ในสำเนาบันทึกข้อตกลงเพิ่มเติมแนบท้ายสัญญารับฝากทองคำแท่ง และในข้อ 3 ถึงข้อ 4 ของบันทึกข้อตกลงยังกล่าวถึงกรณีที่จำเลยที่ 1 ผิดนัดในการส่งมอบทองคำแท่งแก่โจทก์ แล้วทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย จำเลยที่ 1 ต้องรับผิดในส่วนที่เป็นดอกเบี้ยและค่าเสียหายอื่น ๆ อีก ดังนี้ถือได้ว่าเช็คทั้งสามสิบสี่ฉบับไม่ได้ออกเพื่อชำระหนี้เฉพาะค่าทองคำแท่งล้วน ๆ ตามราคาที่โจทก์ซื้อ แต่ยังรวมค่าเสียหายอื่น ๆ ไว้อีก จึงแสดงว่าถ้าจำเลยที่ 1 คืนทองคำแท่งแก่โจทก์ได้โดยไม่ผิดสัญญา โจทก์ย่อมไม่มีสิทธินำเช็คไปเรียกเก็บเงิน โดยถือการส่งมอบทองคำแท่งคืนโจทก์เป็นสาระสำคัญของสัญญา เช็คพิพาททั้งสิบเอ็ดฉบับจึงเป็นการที่จำเลยที่ 1 สั่งจ่ายไว้เป็นประกันการคืนทองคำแท่งหรือคืนราคาพร้อมค่าเสียหายแก่โจทก์เท่านั้น มิใช่เพื่อเป็นการชำระหนี้ค่าซื้อขายทองคำแท่งตามน้ำหนักราคาทองคำแท่งอันจะถือว่าเป็นหนี้ตามสัญญาซื้อขายที่มีอยู่จริง การกระทำของจำเลยทั้งสองจึงยังไม่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534 มาตรา 4 ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษายกฟ้องมานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา อ.564/2565
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา









