สารบัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1633/2525

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1633/2525

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 453, 487, 1249, 1250, 1252, 1259 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 61, 172

แม้โจทก์จะตั้งข้อหาในฟ้องว่า ซื้อขาย เช็ค แต่คำฟ้องของโจทก์ที่แท้จริงอยู่ที่คำบรรยายฟ้องเมื่อโจทก์บรรยายฟ้องมาเป็นเรื่องจ้างทำของก็ต้องถือว่าคดีนี้โจทก์ฟ้องจำเลยเรื่องสัญญาจ้างทำของ เช็คที่โจทก์อ้างมาในฟ้องเป็นเพียงการอ้างถึงหลักฐานแห่งการชำระหนี้ส่วนหนึ่งของจำเลยที่โจทก์ยังไม่ได้รับชำระเท่านั้น

สัญญาจ้างทำของกฎหมายมิได้บังคับว่าต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือจึงจะฟ้องร้องให้บังคับคดีได้ ดังนั้น แม้โจทก์จะมิได้แนบสัญญาจ้างทำของหรือบรรยายรายละเอียดเกี่ยวกับเช็คมาในฟ้อง หรือบรรยายรายละเอียดว่าจำเลยสั่งให้โจทก์ทำตั้งแต่วันใด กี่คราวบ้าง ก็เป็นเรื่องรายละเอียดที่จะนำสืบในชั้นพิจารณา ฟ้องโจทก์จึงหาเคลือบคลุมไม่

ขณะโจทก์ยื่นฟ้องโจทก์ยังมีสภาพเป็นนิติบุคคลอยู่โดยมีช.เป็นผู้จัดการเมื่อจดทะเบียนเลิกห้างแล้วช. เป็นผู้ชำระบัญชีของโจทก์ต่อมาช. จึงมีฐานะเป็นผู้แทนของโจทก์เพื่อชำระสะสางการงานของห้างโจทก์ให้เสร็จไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1249,1250 และ 1252 โดยผู้ชำระบัญชีไม่จำต้องแต่งทนายความให้มาดำเนินคดีใหม่หรือยื่นคำร้องต่อศาลขอเข้าดำเนินคดีแทนห้างโจทก์

เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด มีนายชูชีพ เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการจำเลยได้สั่งซื้อภาชนะพลาสติกสำหรับบรรจุน้ำมันเครื่องจากโจทก์เป็นจำนวนมากและหลายครั้งโดยจำเลยสัญญาว่าจะชำระราคาในทันทีที่ได้รับสินค้า โจทก์ส่งสินค้าให้จำเลยเป็นเงิน 229,117.20 บาท และค่าทำแบบพิมพ์อีก 4,000 บาท จำเลยชำระหนี้บางส่วนด้วยเช็คลงวันที่ล่วงหน้า ปรากฏว่าธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค 9 ฉบับ โจทก์ทวงถามจำเลยชำระให้โจทก์รวม 60,000 บาท คงค้างชำระอีก173,117.20 บาท จึงขอให้บังคับจำเลยชำระเงินจำนวนดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์

จำเลยให้การว่า ขณะฟ้องโจทก์จดทะเบียนเลิกห้างแล้วจึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยติดต่อซื้อภาชนะพลาสติกจากโจทก์จริง แต่เป็นหนี้โจทก์เพียง 131,064.75 บาทและจำเลยได้ชำระให้โจทก์หมดสิ้นแล้ว ฟ้องโจทก์ไม่มีรายการสำเนาหรือภาพถ่ายสัญญาซื้อขายหรือบรรยายรายละเอียดเกี่ยวกับเช็คเป็นฟ้องเคลือบคลุม

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 156,517.20 บาทพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า แม้โจทก์จะตั้งข้อหาในฟ้องว่า ซื้อขายเช็ค แต่คำฟ้องของโจทก์ที่แท้จริงอยู่ที่คำบรรยายฟ้อง เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องมาเป็นเรื่องจ้างทำของก็ต้องถือว่าคดีนี้โจทก์ฟ้องจำเลยเรื่องสัญญาจ้างทำของมิใช่เรื่องซื้อขายหรือเช็ค ซึ่งเมื่อพิจารณาคำฟ้องของโจทก์โดยตลอดแล้วศาลฎีกาเห็นพ้องกับศาลล่างทั้งสองที่วินิจฉัยว่าฟ้องโจทก์เป็นเรื่องที่โจทก์ขอให้บังคับจำเลยตามสัญญาจ้างทำของส่วนเช็คที่โจทก์อ้างมาในฟ้องเป็นเพียงการอ้างถึงหลักฐานแห่งการชำระหนี้ส่วนหนึ่งของจำเลยที่โจทก์ยังมิได้รับชำระเท่านั้นโดยเฉพาะสัญญาจ้างทำของนั้นกฎหมายมิได้บังคับว่าต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือจึงจะฟ้องร้องให้บังคับคดีได้ ดังนั้นแม้โจทก์จะมิได้แนบสัญญาจ้างทำของและบรรยายรายละเอียดเกี่ยวกับเช็คมาในฟ้องดังที่จำเลยให้การต่อสู้ และไม่ได้บรรยายรายละเอียดว่าจำเลยสั่งให้โจทก์ทำตั้งแต่วันใดกี่คราวบ้าง ก็เป็นรายละเอียดที่จะนำสืบในชั้นพิจารณา ที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยว่าฟ้องของโจทก์ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุมชอบแล้ว

ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าในขณะที่โจทก์ยื่นฟ้องโจทก์ยังมีสภาพเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย และปรากฏตามเอกสารหมาย จ.48 ว่านายชูชีพผู้จัดการห้างโจทก์นั้นเองเป็นผู้ชำระบัญชีของโจทก์ต่อมาภายหลังการจดทะเบียนเลิกห้างนายชูชีพผู้ชำระบัญชีจึงมีฐานะเป็นผู้แทนของโจทก์เพื่อชำระสะสางการงานของห้างโจทก์ให้เสร็จไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1249, 1250 และ 1252ทั้งนี้โดยผู้ชำระบัญชีไม่จำต้องแต่งทนายความให้มาดำเนินคดีใหม่หรือยื่นคำร้องต่อศาลขอเข้าดำเนินคดีแทนห้างโจทก์

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา nan

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ชื่อคู่ความ โจทก์ - ห้างหุ้นส่วนจำกัดไดมอนด์พล๊าสติค จำเลย - บริษัทแสตนดาร์ดออยล์ประเทศไทย จำกัด

ชื่อองค์คณะ ปรีชา พานิชวงศ์ สนิท อังศุสิงห์ สำเนียง ด้วงมหาสอน

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน nan

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th
ติดต่อเราทาง LINE