ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 1717 ได้ตกลงยินยอมให้นายเดชน์ อัคนทัต เป็นตัวแทนเชิดนำที่ดินดังกล่าวไปจัดสรรแบ่งเป็นแปลง ๆ โดยใช้ชื่อว่า หมู่บ้านสันติสุข แต่โฆษณาว่าเป็นการให้ที่ดินเปล่า ผู้ประสงค์จะได้ที่ดินต้องช่วยออกเงินค่าถนน โจทก์ตกลงซื้อที่ดินไว้จากนายเดชน์ 4 แปลง ชำระราคาแล้วนายเดชน์ทำสัญญาอำพรางว่า โจทก์ชำระเงินเป็นค่าว่าจ้างให้นายเดชน์ทำถนน และตกลงจะโอนกรรมสิทธิ์ให้โจทก์ เมื่อสำนักงานที่ดินแบ่งเขตโฉนดแล้ว ต่อมาด้วยเส่ห์เพทุบายจำเลยอ้างว่าได้ฟ้องเลิกสัญญาจะซื้อขายกับนายเดชน์แล้ว จึงขอให้ศาลบังคับให้จำเลยโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้แก่โจทก์

จำเลยให้การรับว่าเป็นเจ้าของที่ดินโฉนดเลขที่ 1717 จริง แต่ไม่ได้ทำการจัดสรรแบ่งขายที่ดิน ไม่ว่าด้วยตนเองหรือเชิดให้ผู้ใดเป็นตัวแทน และไม่ทราบไม่รู้เห็นเกี่ยวกับโฆษณาของนายเดชน์ โจทก์จ่ายเงินให้นายเดชน์เป็นค่าจ้างทำถนน ไม่ใช่เป็นค่าที่ดินทั้งไม่ใช่นิติกรรมอำพรางฟ้องโจทก์เคลือบคลุมและขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษา สัญญาเอกสารหมาย จ.3 ระบุชัดว่าเป็นสัญญาว่าจ้างทำถนน การที่จะเป็นนิติกรรมอำพรางต้องมีนิติกรรม 2 ฉบับทำนิติกรรมฉบับหนึ่งขึ้นเพื่อเป็นการอำพรางอีกฉบับหนึ่งซึ่งไม่ประสงค์จะเปิดเผย คู่กรณีไม่ได้ทำสัญญาซื้อขายที่ดินซึ่งเป็นนิติกรรมอันที่ว่าถูกอำพรางไว้ จึงมิใช่กรณ๊ทำนิติกรรมอำพรางไม่จำต้องวินิจฉัยข้ออื่นต่อไป ให้ยกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ควรจะยกประเด็นที่ว่า นายเดชน์เป็นตัวแทนเชิดของจำเลยหรือไม่ขึ้นวินิจฉัยก่อน และพิพากษาว่าจำเลยได้ทำสัญญาจะขายที่ดินโฉนดเลขที่ 1717 ให้นายเดชน์จริง ต่อมานายเดชน์ผิดสัญญา จำเลยฟ้องขับไล่นายเดชน์และทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันโดยนายเดชน์ยอมชำระเงินให้จำเลยแล้วจำเลยยอมโอนที่ดินให้นายเดชน์ แต่ต่อมานายเดชน์ไม่ชำระเงินให้ทั้งในสัญญาระบุว่าผู้ขายยอมให้ผู้ซื้อมีสิทธิครอบครองเหนือที่ดินแปลงนี้ และเข้าทำประโยชน์ได้ทุกอย่าง จึงไม่น่าเชื่อว่าเมื่อโจทก์สอบถามจำเลย จำเลยว่านายเดชน์เป็นผู้จัดการแทน แม้จำเลยรู้ว่านายเดชน์นำที่ดินไปจัดสรรแบ่งขายตลอดจนการรังวัดแบ่งแยกที่ดินเป็นแปลง ๆ กระทำในนามของจำเลย ก็หาพอที่จะถือว่าจำเลยเชิดนายเดชน์เป็นตัวแทนจัดสรรที่ดินนี้ไม่ การรังวัดแบ่งแยกก็เป็นเรื่องที่จำเลยปฏิบัติตามสัญญา ซึ่งกำหนดให้จำเลยมีหน้าที่ทำการขอรังวัดแบ่งแยกให้นายเดชน์ผู้ซื้อ จำเลยไม่ต้องรับผิดคืนเงินหรือโอนที่ดินให้โจทก์ตามสัญญาที่นายเดชน์ทำไว้กับโจทก์ ไม่จำต้องวินิจฉัยประเด็นข้ออื่น

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th