ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นพนักงานประเภทประจำขององค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ (ร.ส.พ.) อันเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย เป็นผู้ช่วยพยาบาลแผนกสวัสดิการมีหน้าที่ช่วยงานในการถ่ายภาพเอ๊กซเรย์ฯ เก็บเงินกับออกใบเสร็จรับเงินค่าเอ๊กซเรย์ เมื่อระหว่างวันที่ 14 กรกฎาคม 2512 เวลากลางวันถึงวันที่ 23 ธันวาคม 2514 เวลากลางวันต่อเนื่องกัน จำเลยได้รับเงินค่าเอ๊กซเรย์จากพนักงานเข้าใหม่และออกใบเสร็จรับเงินให้ไว้รายละ 35 บาท จำนวน 294ราย เป็นเงิน 10,290 บาท แล้วบังอาจปลอมสำเนาใบเสร็จรับเงินค่าเอ๊กซเรย์อันเป็นเอกสารสิทธิจำนวน 294 ราย โดยเขียนวันเดือนปีขึ้นใหม่ และเขียนในช่องจำนวนเงินว่า 25 บาทบ้าง 10 บาทบ้าง แล้วนำใบเสร็จรับเงินปลอมและจำนวนเงินเท่าที่จำเลยปลอมขึ้นส่งต่อเจ้าหน้าที่ อันเป็นความเท็จและทุจริตต่อหน้าที่ เงินที่เหลือนอกนั้นจำเลยยักยอกเอาไปเสีย การกระทำของจำเลยน่าจะเกิดความเสียหายแก่องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ และจำเลยกระทำเพื่อให้องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์และเจ้าหน้าที่หลงเชื่อว่าเป็นสำเนาใบเสร็จรับเงินที่แท้จริง

ต่อมาจำเลยบังอาจใช้สำเนาใบเสร็จรับเงินค่าเอ๊กซเรย์ปลอมรวม 294รายที่จำเลยปลอมขึ้นอ้างแสดงต่อเจ้าหน้าที่ขององค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์พร้อมกับจำนวนเงินค่าเอ๊กซเรย์ตามที่ลงในสำเนาใบเสร็จรับเงินปลอม เพื่อแสดงว่าจำเลยได้รับเงินค่าเอ๊กซเรย์ไว้เท่าจำนวนที่ปรากฏในสำเนาใบเสร็จรับเงินปลอมในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ กับจำเลยบังอาจยักยอกเบียดบังเงินค่าเอ๊กซเรย์ที่รับไว้จากพนักงานเข้าใหม่ส่วนที่เหลือจากนำส่งเจ้าหน้าที่องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ตามสำเนาใบเสร็จรับเงินค่าเอ๊กซเรย์ที่จำเลยทำปลอมขึ้นจำนวน6,275 บาทไปเป็นประโยชน์ของจำเลยโดยทุจริต เหตุเกิดที่ตำบลทุ่งพญาไทอำเภอพญาไท กรุงเทพมหานคร ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 264, 265, 268, 352, 353 พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 4, 8, 10

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานปลอมเอกสารและฐานใช้หรืออ้างเอกสารปลอม แต่เป็นความผิดฐานยักยอกทรัพย์และฐานเป็นพนักงานมีหน้าที่จัดการทรัพย์เบียดบังเอาทรัพย์นั้นเป็นของตนโดยทุจริต ความผิดฐานยักยอกทรัพย์เป็นความผิดอันยอมความได้และองค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ไม่ติดใจดำเนินคดีกับจำเลย จึงพิพากษาลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 4 ให้จำคุก 5 ปี ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 3 ปี 4 เดือน ข้อหานอกนี้ให้ยก

โจทก์จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าที่จำเลยฎีกาว่าฟ้องโจทก์ไม่สมบูรณ์ตามกฎหมายเพราะไม่ได้บรรยายฟ้องว่าองค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์มีทุนทั้งหมดหรือทุนเกินกว่าร้อยละห้าสิบเป็นของรัฐนั้น ปรากฏว่าองค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ซึ่งเรียกโดยย่อว่า "ร.ส.พ." จัดตั้งขึ้นโดยพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ พ.ศ. 2496 และมาตรา 9 แห่งพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวบัญญัติว่า "ให้กำหนดทุนของ ร.ส.พ. เป็นจำนวนเงินห้าสิบล้านบาทโดยรัฐบาลจ่ายให้เป็นทุนประเดิมสิบล้านบาท และจ่ายเพิ่มเติมเป็นคราว ๆ ตามจำนวนที่รัฐบาลเห็นสมควร" และทางราชการได้ประกาศพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวในราชกิจจานุเบกษาแล้ว จึงเป็นที่ทราบกันทั่วไปแล้วองค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์มีทุนห้าสิบล้านบาทโดยทุนทั้งหมดเป็นของรัฐ ดังนั้นแม้โจทก์จะไม่ได้บรรยายฟ้องว่า องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์มีทุนทั้งหมดหรือทุนเกินกว่าร้อยละห้าสิบเป็นของรัฐ ฟ้องโจทก์ก็สมบูรณ์ตามกฎหมายแล้ว

อนึ่ง ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยเป็นพนักงานประเภทประจำขององค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์อันเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายในตำแหน่งผู้ช่วยพยาบาล มีหน้าที่ช่วยงานในการถ่ายภาพเอ๊กซเรย์ฯ รับเงินค่าเอ๊กซเรย์และออกใบเสร็จรับเงินด้วย จำเลยเป็นผู้ปฏิบัติงานในองค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ซึ่งเป็นพนักงานตามความหมายแห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 3เมื่อจำเลยได้รับเงินค่าเอ๊กซเรย์จากผู้ที่มาเอ๊กซเรย์รายละ 35 บาทแล้ว จำเลยก็เขียนจำนวนเงินและวันเดือนปีที่รับเงินใบเสร็จรับเงินท่อนแรกที่เป็นต้นฉบับและมอบให้แก่ผู้ชำระเงินไปตามความจริง ภายหลังจำเลยจึงเขียนใบเสร็จรับเงินท่อนที่สองและท่อนี่สามที่เป็นสำเนา โดยเขียนจำนวนเงินน้อยลงกว่าที่ได้รับและเขียนวันเดือนปีที่ได้รับเงินไม่ตรงความจริง การที่จำเลยเขียนใบเสร็จรับเงินท่อนที่สองและท่อนที่สามไม่ตรงกับใบเสร็จรับเงินท่อนแรกที่เป็นต้นฉบับทั้งจำนวนเงินและวันเดือนปีที่ได้รับเงิน การกระทำของจำเลยจึงเป็นการปลอมสำเนาใบเสร็จรับเงินอันเป็นเอกสารสิทธิ ต่อมาจำเลยใช้สำเนาใบเสร็จรับเงินที่จำเลยปลอมขึ้นไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ขององค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์พร้อมด้วยจำนวนเงินตามที่ลงในสำเนาใบเสร็จรับเงินปลอม เพื่อแสดงว่าจำเลยได้รับเงินค่าเอ๊กซเรย์ไว้เท่าจำนวนที่ปรากฏในสำเนาใบเสร็จรับเงินปลอม จึงเป็นการใช้เอกสารสิทธิปลอม การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265 และ 268 แต่ให้ลงโทษตามมาตรา 268

การที่จำเลยปลอมสำเนาใบเสร็จรับเงินท่อนที่สองและท่อนที่สามโดยเขียนจำนวนเงินน้อยกว่าในใบเสร็จรับเงินท่อนแรกที่เป็นต้นฉบับ แล้วนำใบเสร็จรับเงินท่อนที่สองที่จำเลยทำปลอมขึ้นไปอ้างต่อเจ้าหน้าที่ขององค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์พร้อมกับเงินค่าเอ๊กซเรย์ตามจำนวนที่ระบุในใบเสร็จรับเงินท่อนที่สองที่จำเลยทำปลอมขึ้น ก็เพื่อยักยอกเบียดบังเงินค่าเอ๊กซเรย์ส่วนที่เหลือจากนำส่งเจ้าหน้าที่ การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวกันแต่ผิดกฎหมายหลายบทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90

พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 ประกอบด้วยมาตรา 265 และพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502มาตรา 4 แต่ให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 4 อันเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ส่วนกำหนดโทษและการลดโทษที่ลงแก่จำเลยให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th