ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334,335(1), (12), 357 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา(ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2525 มาตรา 11 คืนข้าวเปลือกของกลางแก่ผู้เสียหายและให้จำเลยคืนหรือใช้ข้าวเปลือกจำนวน 8 มัด ราคา 300 บาทแก่นายสุด อู่สุวรรณด้วย

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 357 จำคุก 2 ปี คืนข้าวเปลือกของกลางแก่ผู้เสียหาย ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาข้าวเปลือก 8 มัด แก่นายสุด อู่สุวรรณด้วย

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง คืนข้าวเปลือกของกลางให้แก่เจ้าของ

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาพิพากษาว่า "ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติตามที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยว่าข้าวของกลาง 6 ฟ่อน อันเป็นของผู้เสียหายทั้งสองนั้นอยู่ในกองข้าวที่ลานนวดข้าวของจำเลย ซึ่งจำเลยมิได้ปฏิเสธมาในคำแก้ฎีกาของจำเลย คงมีปัญหาในชั้นฎีกาว่า จำเลยรับเอาข้าวของกลางไว้โดยรู้ว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการลักทรัพย์หรือไม่ โจทก์มีนายสุด อู่สุวรรณและนางซ้อน อุทัศน์ ผู้เสียหายทั้งสองกับนายยอด มณีวงษ์ ผู้ใหญ่บ้าน มาเบิกความว่า ที่กองข้าวของผู้เสียหายมีรอยข้าวกองอยู่แต่ข้าวหายไปและมีรอยเท้าคนกับเศษข้าวที่ตกตามรอยเท้าคนจากนาของผู้เสียหายไปถึงลานข้าวของจำเลย ต้องรื้อกองข้าวของจำเลยออกจึงพบข้าวผู้เสียหาย ข้าวของผู้เสียหายคนละพันธุ์กับข้าวของจำเลย เมล็ดข้าวไม่เหมือนกัน วัสดุที่ใช้มัดข้าวไม่เหมือนกัน ร้อยตำรวจตรีสุวัฒน์ ปราสัยระบิน พนักงานสอบสวนก็เบิกความว่า เมล็ดข้าวของผู้เสียหายขาวกว่า ใหญ่กว่าและยาวกว่าของจำเลย วัสดุที่ใช้มัดข้าวของผู้เสียหายเป็นไม้ไผ่ ของจำเลยเป็นหญ้าแฝก เมื่อลักษณะของฟ่อนข้าวของผู้เสียหายทั้งสองและจำเลยแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ทั้งข้าวก็อยู่ในกองมิได้วางไวัตามพื้นนา การที่ข้าวของผู้เสียหายไปอยู่ในลานข้าวของจำเลยและมีกองข้าวของจำเลยทับอยู่น่าเชื่อว่ามีคนลักเอาไปโดยเจตนาไม่ใช่คนที่มาช่วยจำเลยแบกเอาไปโดยผิดหลง เมื่อจำเลยอยู่ที่ลานข้าวและหาบข้าวไปไว้ด้วยตนเอง จำเลยย่อมเห็นข้าวที่คนไปลักเอามามีลักษณะเมล็ดข้าว วัสดุที่มัดฟ่อนข้าวไม่เหมือนของจำเลย ก็ต้องรู้ได้ทันที่ว่าไม่ใช่ข้าวของจำเลย เมื่อจำเลยรับเอาไว้โดยรู้ว่าเป็นทรัพย์ที่ลักมา จำเลยจึงมีความผิดฐานรับของโจรดังฟ้องที่จำเลยนำสืบว่า ข้าวของผู้เสียหายกับของจำเลยเหมือนกันและจำเลยก็ใช้ตอกมัดเหมือนของผู้เสียหาย เมื่อผู้เสียหายหยิบข้าวในกองของจำเลยมา 1 ฟ่อน จำเลยก็ว่าเป็นของจำเลยนั้นแตกต่างกับที่จำเลยให้กาาต่อพนักงานสอบสวน ว่าไม่รู้ว่าข้าวจำนวน 6 ฟ่อนของผู้เสียหายมาอยู่ในลานข้าวของจำเลยอย่างไร และรับว่าข้าว6 ฟ่อนไม่ใช่ของจำเลย พยานจำเลยจึงไม่อาจหักล้างพยานโจทก์ได้ฎีกาของโจทก?ฟังขึ้นแต่ที่โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นนั้น เห็นว่า จำเลยรับของโจรข้าวของผู้เสียหายเพียง6 ฟ่อน ตามที่โจทก์ฟ้องซึ่งเป็นทรัพย์ที่มีราคาไม่มากนัก ควรกำหนดโทษให้เบาลงและจำเลยไม่ต้องคืนหรือใช้ราคาทรัพย์จำนวนที่ยังไม่ได้คืนอีก

พิพากษากลับ จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357จำคุก 1 ปี ข้าวเปลือกของกลางคืนผู้เสียหาย คำขออื่นให้ยก"

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th