ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2533 ถึงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2535 เวลากลางวันและกลางคืนติดต่อกัน จำเลยกับพวกอีกหลายคนที่หลบหนีร่วมกันบุกรุกเข้าไปในห้องแถวสองชั้นเลขที่ 119/6 และ 119/7 ของนายแจ้ง ผู้เสียหาย โดยไม่มีเหตุอันสมควร เพื่อถือการครอบครองห้องดังกล่าวของผู้เสียหายทั้งหมดและเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้เสียหายโดยปกติสุข ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362, 364, 365, 83

จำเลยให้การปฏิเสธ

ระหว่างพิจารณา ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาต

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 365(2)(3) ประกอบมาตรา 362 ให้ลงโทษจำคุก 1 ปี

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362 ให้ลงโทษจำคุก 2 เดือน

โจทก์และจำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงเบื้องต้นฟังได้ว่า ห้องแถวสองชั้นเลขที่119/4, 119/5, 119/6 และ 119/7 ปลูกอยู่บนที่ดินโฉนดเลขที่ 1723 ตำบลในเมือง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ โฉนดที่ดินดังกล่าวมีชื่อโจทก์ร่วมเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์มีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า จำเลยกระทำความผิดฐานบุกรุกห้องพิพาทหรือไม่ พยานหลักฐานจำเลยไม่อาจหักล้างพยานหลักฐานโจทก์และโจทก์ร่วมได้ คดีนี้ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยให้คนงานของจำเลยเข้าไปพักอาศัยในห้องพิพาท ประกอบกับจำเลยได้รื้อถอนพื้นและฝาผนังห้องพิพาทของโจทก์ร่วมอันมีลักษณะส่อแสดงให้เห็นว่าจำเลยต้องการถือครอบครองห้องพิพาทอันเป็นอสังหาริมทรัพย์ของโจทก์ร่วม จำเลยจึงมีความผิดฐานบุกรุกห้องพิพาทฎีกาอื่นของจำเลยไม่เป็นสาระอันควรได้รับการวินิจฉัยศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษามานั้นศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น

มีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า จำเลยมีความผิดฐานบุกรุกเวลากลางคืนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 365(3) ประกอบมาตรา 362 หรือไม่โดยโจทก์ฎีกาว่าตราบใดที่จำเลยบุกรุกเข้าไปในห้องพิพาทและอยู่ หรือให้บุคคลอื่นอยู่ในห้องพิพาทในนามของจำเลย ตราบนั้นจำเลยก็ยังคงมีความผิดฐานบุกรุกตลอดเวลาไม่ขาดตอนคือเป็นการบุกรุกทั้งเวลากลางวันและกลางคืนต่อเนื่องกัน อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 365(3) ประกอบมาตรา 362 นั้น ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่เห็นว่า การที่จำเลยให้คนงานเข้าไปพักอาศัยตลอดจนจำเลยทำการรื้อฝาผนังห้องพิพาทออกแล้วก่ออิฐบล็อกแทน กับทำพื้นห้องพิพาทใหม่ การกระทำของจำเลยเป็นการเข้าไปถือการครอบครองห้องพิพาทของโจทก์ร่วมดังวินิจฉัยตามข้างต้นซึ่งตามฟ้องระบุว่าจำเลยบุกรุกเข้าไประหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2533 ถึงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2535 เวลากลางวันและกลางคืนติดต่อกัน แต่ในทางพิจารณาโจทก์และโจทก์ร่วมนำสืบไม่ได้ว่าจำเลยเริ่มบุกรุกเข้าไปในห้องพิพาทของโจทก์ร่วมในเวลากลางวันหรือกลางคืน เมื่อเป็นดังนี้จึงให้ฟังเป็นคุณแก่จำเลยว่า จำเลยบุกรุกเข้าไปถือการครอบครองห้องพิพาทของโจทก์ร่วมในเวลากลางวัน ซึ่งความผิดฐานบุกรุกนี้เกิดขึ้นตั้งแต่จำเลยเข้าไปถือการครอบครองห้องพิพาทของโจทก์ร่วมแล้ว ส่วนการที่จำเลยครอบครองห้องพิพาทต่อมาเป็นเพียงผลของการบุกรุกเท่านั้น การกระทำของจำเลย จึงไม่ใช่ความผิดต่อเนื่องตราบเท่าที่จำเลยยังถือการครอบครองห้องพิพาทของโจทก์ร่วมการกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362 ไม่เป็นความผิดตามมาตรา 365(3) ดังที่โจทก์ฎีกา ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษามานั้นชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น"

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th