ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 4, 7, 8, 26, 75, 76, 102 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 83 ริบหม้ออะลูมิเนียมของกลาง

จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 26 วรรคหนึ่ง, 76 วรรคสอง, 102 จำคุกคนละ 2 เดือน และปรับคนละ 4,000 บาท จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกคนละ 1 เดือน และปรับคนละ 2,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนดคนละ 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 ริบของกลาง ข้อหาอื่นนอกจากนี้ให้ยก

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์แผนกคดียาเสพติดพิพากษายืน

โจทก์ฎีกา โดยได้รับอนุญาตจากศาลฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นความผิดฐานร่วมกันผลิตพืชกระท่อมหรือไม่ เห็นว่า ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 4 นิยามคำว่า "ผลิต" หมายความว่า เพาะ ปลูก ทำ ผสม ปรุง แปรสภาพ เปลี่ยนรูป สังเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ และให้หมายความรวมถึงการแบ่งบรรจุ หรือรวมบรรจุด้วย การผลิตตามความมุ่งหมายในการออกกฎหมายดังกล่าวจึงไม่ได้มีความหมายเพียงแค่การผลิตตามที่เข้าใจกันโดยทั่วไป แต่มีความหมายครอบคลุมกว้างขวางถึงการผสมและการปรุงด้วย ดังนั้น การที่จำเลยทั้งสองร่วมกันต้มน้ำพืชกระท่อมแล้วนำมาผสมกับยาแก้ไอ เพื่อให้เกิดการมึนเมา จึงเข้าลักษณะของการผสมและการปรุงอันเป็นการผลิตตามกฎหมายดังกล่าวแล้ว การกระทำของจำเลยทั้งสองจึงเป็นความผิดฐานร่วมกันผลิตซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น แต่พืชกระท่อมที่ต้มเสร็จและนำมาผสมกับยาแก้ไอแล้วนั้นมีปริมาตรเพียง 3,000 มิลลิลิตร ซึ่งเท่ากับ 3 ลิตร โดยไม่ปรากฏว่าปริมาตร 3,000 มิลลิลิตรนั้นมีพืชกระท่อมผสมอยู่เท่าไร เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองเคยกระทำความผิดมาก่อน กรณีมีเหตุสมควรรอการกำหนดโทษให้จำเลยทั้งสอง

พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 26 วรรคหนึ่ง, 75 วรรคสอง ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 แต่ให้รอการกำหนดโทษไว้ 2 ปี และให้คุมความประพฤติของจำเลยทั้งสองไว้ภายในกำหนด 2 ปี ดังกล่าว โดยให้จำเลยทั้งสองไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 2 ครั้ง และกระทำกิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์ 1 ครั้ง ตามที่จำเลยทั้งสองและพนักงานคุมประพฤติเห็นสมควร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา อ.1294/2559

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th