ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ทั้งสองฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงินแก่โจทก์ที่ 1 และที่ 2 จำนวน 2,111,913.69 บาท และ 682,634.61 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของเงินต้น 12,068,678.35 บาท และ 3,900,769.25 บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยจะถอนคำคัดค้านการจ่ายเงินของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์และเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จ่ายเงิน 12,068,678.35 บาท และ 3,900,769.25 บาท แก่โจทก์ที่ 1 และที่ 2 ตามลำดับแล้ว ให้จำเลยถอนคำคัดค้าน ลงวันที่ 30 มกราคม 2555 ในคดีหมายเลขแดงที่ 5223/2547 ของศาลล้มละลายกลาง หากจำเลยไม่ดำเนินการให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ให้ศาลวินิจฉัยว่าจำเลยมีสิทธิได้รับเงินตามบันทึกข้อตกลงเพิ่มเติม สัญญาปรับโครงสร้างหนี้ตามฟ้องเพียง 15,000,000 บาท เมื่อจำเลยได้รับชำระไปแล้ว 11,277,358.84 บาท จำเลยยังคงมีสิทธิได้รับชำระหนี้จากโจทก์ทั้งสองเพียง 3,722,641.16 บาท และให้จำเลยชำระค่าเสียหายเพื่อการลงโทษ 3,722,641.16 บาท แก่โจทก์ทั้งสอง

จำเลยให้การขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ

โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์แผนกคดีผู้บริโภคพิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ

โจทก์ทั้งสองฎีกา โดยศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภคอนุญาตให้ฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภควินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังได้ว่า เดิมวันที่ 25 เมษายน 2539 นาย อ. กับโจทก์ที่ 2 นายอุดม และนายชัยยุทธ์ จดทะเบียนจำนองที่ดินตามฟ้อง เพื่อเป็นประกันหนี้เงินกู้ หนี้ขายลดเช็คและหนี้สินทุกชนิดที่ผู้จำนองและ/หรือนายชัยยุทธ์ มีต่อบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ร. ผู้รับจำนอง เป็นเงิน 26,000,000 บาท ดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 25 ต่อปี มีข้อตกลงว่าผู้จำนองยอมรับผิดร่วมกับลูกหนี้อย่างลูกหนี้ร่วม ภายหลังมีการโอนสิทธิรับจำนองให้บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ก. ธนาคาร ท. และบรรษัทบริหารสินทรัพย์ ท. ตามลำดับ วันที่ 28 ธันวาคม 2547 นายอุดมและนายชัยยุทธ์ ถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดตามคดีหมายเลขแดงที่ 5223/2547 ของศาลล้มละลายกลาง ซึ่งมีบริษัทบริหารสินทรัพย์ พ. เป็นเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ และวันที่ 29 มิถุนายน 2548 บรรษัทบริหารสินทรัพย์ ท. ยื่นคำร้องขอรับชำระหนี้ วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2549 นาย อ. และโจทก์ที่ 2 ทำบันทึกข้อตกลงเพิ่มเติม สัญญาปรับโครงสร้างหนี้กับบรรษัทบริหารสินทรัพย์ ท. ว่า ในวันที่ 30 มิถุนายน 2546 นายชัยยุทธ์เป็นหนี้บรรษัทบริหารสินทรัพย์ ท. ซึ่งเป็นผู้รับโอนสิทธิเรียกร้อง เป็นเงินต้น 14,928,650.68 บาท และดอกเบี้ยค้างรับตามสิทธิ 14,462,794.99 บาท รวมเป็นเงิน 29,391,445.67 บาท และนาย อ. กับโจทก์ที่ 2 ตกลงชำระหนี้แก่บรรษัทบริหารสินทรัพย์ ท. 15,200,000 บาท แบ่งชำระเงินต้น 14,928,650.68 บาท และดอกเบี้ยค้างรับ 271,349.32 บาท โดยในวันทำสัญญาชำระเงินต้น 200,000 บาท และนาย อ. ตกลงนำผู้เข้าประมูลการขายทอดตลาดที่ดินที่จำนองในราคาไม่ต่ำกว่า 15,000,000 บาท หากได้ราคาต่ำกว่านั้น นาย อ. และโจทก์ที่ 2 ตกลงชำระให้จนครบ 15,000,000 บาท และเมื่อชำระหนี้ดังกล่าวแล้ว บรรษัทบริหารสินทรัพย์ ท. ตกลงไถ่ถอนจำนองหลักประกันให้แก่นาย อ. และโจทก์ที่ 2 ต่อมาวันที่ 7 กันยายน 2550 เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในคดีล้มละลายดังกล่าวขายทอดตลาดที่ดินที่จำนองตามฟ้อง และขายได้ในราคา 29,020,000 บาท วันที่ 10 พฤษภาคม 2554 นาย อ. กับโจทก์ที่ 2 ยื่นคำร้องขอกันส่วนเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดดังกล่าว แต่วันที่ 30 มกราคม 2555 บรรษัทบริหารสินทรัพย์ ท. ยื่นคำร้องคัดค้าน วันที่ 22 มกราคม 2556 เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงให้

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา ผบ.(พ)77/2563

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th