ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า บ้านเลขที่ 553 เป็นกรรมสิทธิ์ของนายเกษม ปาหนัน โดยปลูกอยู่ในที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ นายเกษมให้นางคาเตียง แซ่เบ๊มารดาจำเลยเช่าบ้านพิพาทโดยไม่ได้ทำสัญญาเช่า ต่อมานายเกษมถึงแก่ความตายมารดาจำเลยจึงไม่ยอมชำระค่าเช่าตั้งแต่ปี 2512 นางเสงี่ยม ปาหนันในฐานะผู้จัดการมรดกของนายเกษมตามคำสั่งศาลได้ฟ้องขับไล่มารดาจำเลย มารดาจำเลยกลับต่อสู้ว่าบ้านพิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของตนผลที่สุดศาลฎีกามีคำพิพากษาว่า บ้านพิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของนายเกษม ต่อมานางเสงี่ยมถึงแก่ความตาย โจทก์ในฐานะผู้จัดการมรดกของนางเสงี่ยมตามคำสั่งศาลได้ยื่นขอรับมรดกบ้านพิพาทต่อเจ้าพนักงานที่ดินกรุงเทพมหานครจำเลยได้ยื่นคำคัดค้านว่าบ้านพิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของมารดาจำเลย ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายเพราะไม่อาจรับมรดกและเข้าครอบครองบ้านพิพาทได้ขอให้บังคับจำเลยและบริวารออกไปจากบ้านพิพาท ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายเท่ากับค่าเช่าเดือนละ 3,000 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยและบริวารจะออกไปจากบ้านพิพาทและส่งมอบคืนในสภาพเรียบร้อยแก่โจทก์

จำเลยให้การว่า บ้านพิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของนางคาเตียงมารดาจำเลยและมารดาจำเลยไม่เคยตกลงเช่าบ้านดังกล่าวจากนายเกษมจำเลยอยู่ในบ้านพิพาทโดยอาศัยสิทธิของมารดาเมื่อมารดาถึงแก่ความตายจำเลยก็ยังคงอยู่อาศัยในบ้านพิพาทมาโดยตลอด ไม่มีผู้ใดคัดค้าน โจทก์ฟ้องคดีเมื่อพ้นกำหนด 60 วัน นับแต่วันที่มีการโต้แย้งสิทธิกันในบ้านพิพาท สิทธินำคดีมาฟ้องของโจทก์จึงระงับไปแล้ว ค่าเช่าที่โจทก์เรียกสูงเกินความเป็นจริงและโจทก์ไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหาย ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกจากบ้านเลขที่ 553 และส่งมองแก่โจทก์ในสภาพเรียบร้อยให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เดือนละ 1,200 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกไป

จำเลย อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน

จำเลย ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยฎีกาข้อกฎหมายเพียงข้อเดียวว่าระยะเวลาที่โจทก์ต้องฟ้องจำเลยภายใน 60 วัน นับแต่วันที่เจ้าพนักงานที่ดินไกล่เกลี่ยและโจทก์จำเลยตกลงกันไม่ได้นั้นเป็นอายุความที่กำหนดให้คู่ความนำคดีมาฟ้องร้องต่อศาล หากโจทก์ไม่ฟ้องภายในกำหนดระยะเวลาดังกล่าว โจทก์ย่อมหมดสิทธิฟ้องพิเคราะห์แล้ว การวินิจฉัยปัญหาเช่นว่านี้ศาลฎีกาจำต้องถือตามข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยจากพยานหลักฐานในสำนวน ซึ่งศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่า คดีนี้โจทก์ในฐานะผู้จัดการมรดกของนางเสงี่ยม ปาหนัน ได้ยื่นขอรับมรดกบ้านที่พิพาทต่อเจ้าพนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร แต่จำเลยคัดค้านว่าบ้านพิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของมารดาจำเลย เป็นเหตุให้เจ้าพนักงานที่ดินไม่อาจจดทะเบียนโอนบ้านพิพาทให้แก่โจทก์ได้ และเมื่อเจ้าพนักงานที่ดินเปรียบเทียบโจทก์จำเลยก็ไม่สามารถตกลงกันได้ เจ้าพนักงานที่ดินจึงแจ้งให้คู่กรณีไปดำเนินการฟ้องต่อศาลภายใน 60 วันเห็นว่า กรณีดังกล่าวต้องบังคับตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 81ซึ่งบัญญัติกำหนดขั้นตอนไว้ว่า เมื่อมีผู้โต้แย้งการขอจดทะเบียนสิทธิเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ซึ่งได้มาโดยทางมรดกของผู้ร้องขอให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจสอบสวนคู่กรณีและเปรียบเทียบแล้วไม่ตกลงให้พนักงานเจ้าหน้าที่สั่งการไปตามที่เห็นสมควร หากคู่กรณีไม่พอใจคำสั่งดังกล่าวให้ไปดำเนินการฟ้องต่อศาลภายใน 60 วัน นับแต่วันทราบคำสั่ง โดยให้พนักงานเจ้าหน้าที่รอเรื่องไว้ เมื่อศาลพิพากษาหรือมีคำสั่งถึงที่สุดประการใดจึงให้ดำเนินการไปตามกรณี ถ้าไม่ฟ้องภายในกำหนดที่กล่าวข้างต้นก็ให้ดำเนินการไปตามที่พักงานเจ้าหน้าที่สั่งเห็นได้ว่า ระยะเวลาที่กำหนดให้คู่กรณีไปฟ้องศาลภายใน 60 วันดังกล่าวเป็นเพียงขั้นตอนหนึ่งที่กฎหมายกำหนดไว้ให้คู่กรณีฝ่ายไม่พอใจคำสั่งของเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติ หาใช่อายุความดังที่จำเลยเข้าใจแต่ประการใดไม่ เพราะแม้โจทก์ไม่ฟ้องศาลตามกำหนดระยะเวลาดังกล่าวแล้วเจ้าพนักงานที่ดินก็ยังคงดำเนินการต่อไปได้ตามระเบียบของทางราชการและกฎหมายที่เห็นสมควรทั้งไม่เป็นการตัดสิทธิโจทก์ที่จะฟ้องบังคับจำเลยตามมูลคดีเดิมอีกด้วย จากเหตุและผลดังที่ได้วินิจฉัยมาสรุปได้ว่า กำหนดระยะเวลา 60 วัน ตามที่เจ้าพนักงานที่ดินได้กำหนดให้โจทก์ฟ้องคดีต่อศาลดังที่จำเลยกล่าวอ้างมิใช่อายุความตามความหมายของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/9 ซึ่งบัญญัติว่า"สิทธิเรียกร้องใด ๆ ถ้ามิได้ใช้บังคับภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด สิทธิเรียกร้องนั้นเป็นอันขาดอายุความ" ดังนั้นเมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า โจทก์ฟ้องโดยอ้างสิทธิในฐานะเจ้าของบ้านพิพาทเพื่อติดตามเอาทรัพย์สินคืนจากจำเลยผู้ทำละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1336 ซึ่งเป็นกรณีไม่มีกฎหมายกำหนดอายุความฟ้องร้องไว้ โจทก์จึงฟ้องจำเลยเกิน 60 วัน นับแต่วันที่เจ้าพนักงานที่ดินไกล่เกลี่ยได้

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th