ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำสัญญาจะซื้อโทรทัศน์สี 1 เครื่องไปจากโจทก์ราคา 27,000 บาท ชำระเงินในวันทำสัญญา 6,720 บาท ราคาที่เหลือผ่อนชำระเป็นงวด งวดละเดือน เดือนละ 845 บาท รวม 24 งวด เมื่อจำเลยชำระค่าจะซื้อให้โจทก์ครบแล้ว โจทก์จึงจะโอนกรรมสิทธิ์ให้ หากจำเลยผิดนัดไม่ชำระราคางวดใดงวดหนึ่งถือว่าสัญญายกเลิกทันทีบรรดาเงินที่ได้ชำระให้โจทก์แล้วจะต้องถูกริบ และโจทก์มีสิทธิเข้ายึดถือครอบครองโทรทัศน์ที่จะซื้อขายทัน ต่อมาจำเลยผิดนัดไม่ชำระราคาให้โจทก์ โจทก์ติดตามโทรทัศน์คืน แต่จำเลยไม่ยอมคืนให้ขอให้ศาลบังคับให้จำเลยส่งมอบโทรทัศน์คืนให้แก่โจทก์ หากไม่สามารถส่งคืนได้ก็ให้ชดใช้เงิน 10,140 บาท และเรียกค่าเสียหายพร้อมกับดอกเบี้ย นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะส่งมอบหรือชดใช้ราคา

จำเลยให้การว่า สัญญาพิพาทเป็นสัญญาเช่าซื้อ เมื่อไม่ปิดอากรแสตมป์จึงใช้เป็นพยานหลักฐานไม่ได้ ขอให้ยกฟ้อง

ในวันนัดสืบพยานคู่ความแถลงขอให้ศาลวินิจฉัยว่า สัญญาฉบับพิพาทซึ่งมิได้ปิดอากรแสตมป์มีผลใช้บังคับได้หรือไม่ และสัญญาดังกล่าวเป็นสัญญาเช่าซื้อหรือสัญญาซื้อขายโดยมีเงื่อนไข คู่ความแถลงไม่สืบพยาน

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า สัญญาท้ายฟ้องเป็นสัญญาเช่าซื้อซึ่งต้องปิดอากรแสตมป์ เมื่อไม่ปิดอากรแสตมป์จึงไม่อาจใช้เป็นพยานหลักฐานในคดีได้และไม่มีผลบังคับตามกฎหมาย พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า หนังสือสัญญาฉบับพิพาทกำหนดราคาโทรทัศน์สีที่ตกลงจะซื้อขายกันเป็นเงิน 27,000 บาท ชำระเงินในวันทำสัญญา 6,720 บาทที่เหลือผ่อนชำระเป็น 24 งวด งวดละ 845 บาท และกำหนดเงื่อนไขในข้อ 4 ว่ากรรมสิทธิ์ในโทรทัศน์สีดังกล่าวจะตกแก่ผู้จะซื้อเมื่อผู้จะซื้อปฏิบัติตามข้อสัญญาทั้งหมดแล้ว ซึ่งหมายถึงได้ชำระเงินตามที่กำหนดไว้ครบถ้วนแล้วด้วย เห็นว่ามีลักษณะเป็นทำนองที่โจทก์เอาโทรทัศน์สีออกให้เช่าและให้คำมั่นว่าจะให้โทรทัศน์สีนั้นตกเป็นสิทธิแก่จำเลย โดยเงื่อนไขที่จำเลยได้ใช้เงินเป็นจำนวนเท่านั้นเท่านี้คราวตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 572นอกจากนั้นตามสัญญาข้อ 5 ที่ระบุไว้ว่า ถ้าผู้จะซื้อผิดนัดไม่ชำระราคางวดใดงวดหนึ่ง ให้ถือว่าสัญญาเป็นอันยกเลิก บรรดาเงินที่ได้ชำระแก่เจ้าของแล้วให้ริบเป็นของเจ้าของทั้งสิ้น และผู้จะซื้อยินยอมให้เจ้าของหรือตัวแทนเข้ายึดถือครอบครองทรัพย์สินที่จะซื้อคืนในสภาพเรียบร้อยทันที ถ้าเจ้าของต้องเสียค่าติดตามทรัพย์สินที่จะซื้อผู้จะซื้อต้องชดใช้คืนให้นั้น ย่อมมีผลเท่ากับให้จำเลยมีสิทธิบอกเลิกสัญญาในเวลาใดเวลาหนึ่งก็ได้ด้วยการไม่ผ่อนชำระราคาต่อไป แต่ต้องส่งมอบทรัพย์สินกลับคืนให้แก่เจ้าของโดยเสียค่าใช้จ่ายของตนเองและเมื่อมีการเลิกสัญญาในกรณีผิดนัดไม่ใช้เงิน ให้ริบบรรดาเงินที่ได้ใช้มาแล้วเป็นของเจ้าของทรัพย์ อันเป็นวิธีการของสัญญาเช่าซื้อตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 573 และมาตรา 574 ดังนี้สัญญาดังกล่าวจึงเป็นสัญญาเช่าซื้อ ข้อสัญญาที่ว่าให้ผู้จะซื้อชำระเงินเป็นจำนวนเท่านั้นเท่านี้คราวครบถ้วนแล้วจึงให้กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินตกเป็นของผู้จะซื้อหาใช่เป็นเพียงเงื่อนไขการโอนกรรมสิทธิ์ของสัญญาซื้อขายมีเงื่อนไขไม่ สัญญาเช่าซื้อเมื่อมิได้ปิดอากรแสตมป์จึงใช่เป็นหลักฐานฟ้องคดีมิได้

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th