ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกู้เงินไปแล้วไม่ชำระ จึงได้ทำหนังสือประนีประนอมยอมความรับว่าเป็นหนี้เงินกู้โจทก์ ขอผ่อนชำระเป็นงวด หากผิดนัดงวดใดถือว่าผิดนัดหมดทุกงวด ครั้นถึงกำหนดชำระงวดแรก จำเลยก็เพิกเฉย จึงขอให้ศาลบังคับ

จำเลยให้การว่า โจทก์นำเงินมาลงทุนกิจการทิมแลนด์ร่วมกับนายเติมและหุ้นส่วนอื่น ๆ โดยโจทก์ จำเลยและนายเติมรู้กันว่าหากมีการขาดทุนเมื่อใดจำเลยและนายเติมจะต้องหาทางหักเงินจากรายได้ในกิจการทิมแลนด์มาใช้ให้แก่โจทก์แล้วจึงแบ่งผลประโยชน์กัน นายเติมมีคดีต้องหนีออกนอกประเทศโจทก์จึงได้มาทำสัญญาเป็นเจตนาลวงโดยสมรู้กับจำเลย ต่อมาการดำเนินการในทิมแลนด์ขาดทุน โจทก์จึงขอให้จำเลยทำหนังสือรับสภาพหนี้ขึ้นอีกฉบับหนึ่งเป็นการอำพรางนิติกรรมสัญญาเดิม เพื่อให้หุ้นส่วนอื่นไม่ระแวงสงสัยนิติกรรมทั้งสองฉบับจึงตกเป็นโมฆะ ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินโจทก์พร้อมดอกเบี้ย

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์ได้ให้นางเจียรกู้เงินไป โดยโจทก์ทราบว่านางเจียรกู้ให้นายเติม แล้วนายเติมหนีไปต่างประเทศ โจทก์จึงติดต่อกับนางเจียรให้จัดการเรื่องเงินที่กู้ไป นางเจียรจึงได้พาจำเลยไปทำสัญญากู้กับโจทก์ จำเลยไม่ชำระดอกเบี้ย โจทก์จึงทวงถามจำเลยในที่สุดก็ตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความฉบับที่โจทก์นำมาฟ้อง ศาลฎีกาเห็นว่า การแสดงเจตนาลวงที่จะตกเป็นโมฆะ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 118 วรรคแรกนั้น จะต้องเป็นการแสดงเจตนาที่ทำขึ้นโดยความประสงค์ร่วมกันของคู่กรณีทั้งสองฝ่ายที่จะไม่ให้ผูกพันกันหรืออีกนัยหนึ่ง จะต้องปรากฏว่ามีการสมรู้กันระหว่างคู่กรณีในการแสดงเจตนาลวงนั้น เมื่อไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้สมรู้หรือตกลงกับจำเลยว่า สัญญากู้ที่ขึ้นจะไม่มีผลผูกพันกันจริงจังระหว่างโจทก์กับจำเลยสัญญากู้ที่จำเลยทำให้โจทก์ก็ไม่อาจถือได้ว่าได้กระทำขึ้นโดยการแสดงเจตนาลวงส่วนกรณีที่จะเกิดมีนิติกรรมอำพรางขึ้นนั้น จะต้องเนื่องมาจากการที่บุคคลสองฝ่ายตกลงจะทำนิติกรรมอันหนึ่ง แต่กลับแสร้งทำเป็นนิติกรรมอีกอันหนึ่งเพื่อปกปิดหรืออำพรางนิติกรรมที่ทั้งสองฝ่ายตกลงจะทำกันโดยเจตนาอันแท้จริง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 118 วรรคสอง จึงให้บังคับกันตามนิติกรรมที่ถูกอำพรางซึ่งเป็นเจตนาอันแท้จริงของคู่กรณีรูปคดีน่าเชื่อว่า เมื่อโจทก์ไม่ได้รับชำระดอกเบี้ยตามสัญญากู้ จึงประสงค์จะเร่งรัดให้จำเลยชำระหนี้ และเพื่อให้เป็นหลักฐานผูกมัดจำเลยอีกชั้นหนึ่ง จึงได้ให้จำเลยไปทำสัญญาประนีประนอมยอมความ หาใช่เป็นกรณีที่โจทก์ได้ตกลงกับจำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความเป็นการอำพรางสัญญากู้ไม่

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th