ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องและเพิ่มเติมฟ้องว่า โจทก์ที่ 1 ที่ 2 เป็นเหลนและหลานของนายเลอ นางมะ เมื่อราว 50-60 ปีมานี้ นายเลอนางมะแบ่งที่ดินยกให้นางวอน นาวัน นางสาวแหวน นายกรานซึ่งเป็นบุตรพวกบุตรดังกล่าวต่างครอบครองทำกินเป็นส่วนสัด เมื่อประมาณ 45-46 ปีมานี้ เจ้าพนักงานที่ดินออกโฉนดที่แปลงนี้ โฉนดที่ 1503ใส่ชื่อนางสาวแหวนกับนายกรานเป็นเจ้าของ เพราะนางวอน นางวันมีครรภ์แก่ไม่ได้ไป แต่ก็ได้ครอบครองที่ดินเป็นเจ้าของตามส่วนของตนต่อมาโจทก์ที่ 1 ได้รับมรดกที่ดินส่วนของนางวอนโดยได้รับมรดกมาจากนางเกลิ้ดซึ่งเป็นมารดาและเป็นบุตรของนางวอนอีกต่อหนึ่ง โจทก์ที่ 2ได้รับมรดกที่ดินส่วนของนางวันจากนางวันและครอบครองทำกินติดต่อกันมาเกินกว่า 10 ปีแล้ว

เมื่อเดือนมีนาคม 2510 โจทก์ประสงค์จะแบ่งแยกโฉนดเป็นส่วนสัดได้แจ้งให้นายกรานจัดการให้ แต่ปรากฏว่านายกรานนางสาวแหวนได้โอนยกที่ดินส่วนของตนให้จำเลยไปแล้ว โจทก์ไปบอกจำเลยจำเลยก็ไม่ยอมแบ่งและจำเลยได้จดทะเบียนให้นางเครือภริยาเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมในที่ดินโฉนดดังกล่าวโดยเสน่หา โดยนางเครือทราบอยู่แล้วว่าที่ดินในโฉนดมีส่วนของโจทก์รวมอยู่ด้วย ขอให้ศาลพิพากษาว่าที่ดินโฉนดที่ 1503 ตามแผนที่สังเขปท้ายฟ้องในเส้นสีแดงหมายเลข 1, 3 เป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ที่ 1 ที่ 2 ตามลำดับให้เพิกถอนการโอนที่ดินในส่วนของโจทก์ ให้จำเลยไปจัดการแบ่งแยกโฉนดให้

นางเครือเข้ามาเป็นจำเลยร่วม

จำเลยและจำเลยร่วมให้การว่า ที่ดินโฉนดที่ 1503 มิใช่เป็นของนายเลอนางมะ แต่เป็นของนางสาวแหวนและนายกรานได้ครอบครองร่วมกันมา มิได้แบ่งแยกการครอบครองเป็นส่วนสัด นางเลอนางมะไม่เคยยกที่ดินดังกล่าวให้แก่บุตร นางสาวแหวนและนายกรานได้ขอออกโฉนดถือกรรมสิทธิ์ร่วมกัน นางวอนนางวันไม่ได้ให้นางสาวแหวนนายกรานไปขอออกโฉนดแทนหลังจากออกโฉนดแล้ว นางวอนนางวันได้มาขออาศัยทำนาในที่ดินดังกล่าวจากนายกรานนางสาวแหวน เมื่อนางวอนนางวันตาย จำเลยได้ให้โจทก์ที่ 1, 2 อาศัยทำนาต่อไปโจทก์ไม่มีสิทธิ์ขอให้ศาลเพิกถอนนิติกรรมการโอนกรรมสิทธิ์สิทธิในการเพิกถอนของโจทก์ขาดอายุความ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ที่ดินหมายเลข 1 และ 3 ตามแผนที่พิพาทอันเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินโฉนดที่ 1503 เป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ที่ 1 ที่ 2ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 ให้เพิกถอนนิติกรรมการโอนระหว่างนายกรานนางสาวแหวนกับจำเลย เฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับที่ดินพิพาท ให้จำเลยแบ่งแยกโฉนดให้โจทก์

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า นางวอนนางวันนางเกลิ้ด ตลอดจนโจทก์ทั้งสองอาศัยทำนาพิพาท พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า นางเลอนางมะได้ยกที่ดินพิพาทให้กับนางวอน นางวัน นางสาวแหวน นายกราน แล้วต่างก็ได้ครอบครองเป็นส่วนสัดสืบสิทธิติดต่อกันมาจนถึงโจทก์ตราบเท่าถึงฟ้องร้องคดีกันการที่นายกรานและนางสาวแหวนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดดังกล่าวทั้งแปลงซึ่งมีที่ดินส่วนพิพาทอันเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ร่วมอยู่ด้วย ยกให้แก่จำเลยและจำเลยก็รู้ความจริงอยู่ว่าที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ แม้จำเลยจะโอนกรรมสิทธิ์ให้จำเลยร่วมซึ่งเป็นภริยาเป็นเจ้าของร่วมด้วย จำเลยและจำเลยร่วมก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินส่วนพิพาท

พิพากษากลับ ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th