ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่าระหว่างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2496 ตลอดจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2496 เวลากลางวันและกลางคืนจำเลยที่ 2-7 ได้บังอาจจัดให้มีการเล่นการพนันสลากกินรวบ ฯลฯ นายแดงจำเลยที่ 1 เป็นผู้เข้าเล่นด้วย โดยซื้อสลากจากจำเลยที่ 2 ถึง 7 ทั้งนี้โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติการพนันพ.ศ. 2478 มาตรา 12 พระราชบัญญัติการพนัน (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2485มาตรา 3, 4

จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพ

จำเลยที่ 2 ถึง 7 ปฏิเสธ

ในระหว่างพิจารณานายแดงจำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องขอให้ศาลแยกตัดสินศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์แยกฟ้องนายแดงเป็นอีกสำนวนหนึ่ง เมื่อแยกฟ้องแล้วศาลสั่งจำหน่ายคดีนายแดงออกจากสำนวนนี้

ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยที่ 2 ถึงที่ 7 ได้สมคบกันจัดขายสลากกินรวบโดยมิได้รับอนุญาตจริง พิพากษาว่าจำเลยที่ 2 ถึงที่ 7 มีความผิดตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 12 ที่ได้แก้ไขเพิ่มเติมให้จำคุกคนละ 6 เดือน ปรับคนละ 2,000 บาท

จำเลยที่ 2 ถึงที่ 7 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับนายหวาง นายมาลาและนายผา จำเลยที่ 4 ที่ 5 ที่ 6 นอกนั้นคงเป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โจทก์และจำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 7 ฎีกาเฉพาะจำเลย ศาลสั่งรับในปัญหาข้อกฎหมายข้อ 2

ศาลฎีกาเชื่อว่าจำเลยที่ 4 ได้มีส่วนจัดให้มีการเล่นการพนันตามฟ้องโจทก์จริง ส่วนจำเลยที่ 5 ที่ 6 เห็นพ้องกับศาลอุทธรณ์ว่าพยานหลักฐานโจทก์ยังไม่พอชี้ว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้อง

ส่วนปัญหาข้อกฎหมายที่จำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 7 ยกขึ้นฎีกาว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุมเพราะกล่าวเวลายาวนานถึง 9 เดือนนั้นเห็นว่าโจทก์ได้กล่าวถึงเวลาพอที่จำเลยจะเข้าใจข้อหาได้ดีแล้วทั้งยังได้ยืนยันกล่าวว่าจำเลยได้ขายสลากประจำวันที่ 30 กันยายน 2496 อีกด้วย ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) แล้ว

ส่วนข้อที่อ้างว่าโจทก์ไม่ได้อ้างกฎหมายอาญา มาตรา 63 ศาลควรลงโทษสูงต่ำลดหลั่นกันตามพยานหลักฐานในสำนวนไม่ควรลงโทษจำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 7 ทุกคนฐานเป็นตัวการดังที่ศาลล่างลงโทษมาเพราะเป็นการเกินคำขอของโจทก์นั้น เห็นว่าฟ้องโจทก์แสดงว่าจำเลยทุกคนเป็นตัวการกระทำผิดคดีนี้ แม้โจทก์มิได้อ้างกฎหมายอาญา มาตรา 63 ศาลก็ลงโทษจำเลยฐานเป็นตัวการได้ไม่เป็นการเกินคำขอของโจทก์ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น

ส่วนฎีกาข้อ (3) นั้น เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218

พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เฉพาะตัวนายหวางจำเลยที่ 4เป็นให้วางบทกำหนดโทษนายหวางจำเลยที่ 4 เช่นเดียวกับจำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 7 นอกจากนี้คงบังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th