ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่านางสอนพี่สาวโจทก์ซื้อที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญ 1 แปลง จังหวัดพระนครศรีอยุธยาไว้จากนางมา เป็นเงิน 240 บาท ทำหนังสือซื้อขายที่อำเภอบางไทร ต่อมาที่ดินแปลงนี้ตกเป็นมรดกแก่โจทก์ โจทก์ได้ครอบครองตลอดมาและได้จดทะเบียนการรับมรดกที่ดินไว้ที่กรมการอำเภอบางไทร ต่อมา พ.ศ. 2495 โจทก์นำเจ้าพนักงานไปรังวัด จำเลยซึ่งเป็นบุตรสะใภ้นางมาคัดค้าน ทำให้โจทก์เสียหาย 300 บาท ขอให้ศาลแสดงว่าที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ ห้ามจำเลยและบริวารเกี่ยวข้อง

จำเลยต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นของจำเลยติดต่อกับโฉนดที่ 1188 ซึ่งมีชื่อนายพุดสามีจำเลยกับผู้อื่นเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ นายพุดตายจำเลยปกครองร่วมกันมากับที่ดินพิพาทโจทก์และนางสอนไม่เคยเกี่ยวข้อง ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมมิได้บรรยายรูปลักษณะและที่ของที่พิพาทฯ

ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาสืบพยานโจทก์ไปแล้วเหลืออีก 3 ปาก จำเลยยื่นคำให้การเพิ่มเติมเข้ามาว่าโจทก์เป็นคนต่างด้าวไม่มีสิทธิถือกรรมสิทธิ์ที่ดินตามพระราชบัญญัติที่ดินในส่วนที่เกี่ยวกับคนต่างด้าว พ.ศ. 2486 ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องเพิ่มเติมยกเหตุว่าไม่เกี่ยวกับคดีและจำเลยยื่นภายหลังชี้สองสถาน และศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาฟังว่าโจทก์ปกครองที่พิพาทมาที่ดินจึงเป็นสิทธิแก่โจทก์ ห้ามจำเลยและบริวารเกี่ยวข้อง ฯลฯ

จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกาใจความว่า

  1. ศาลอุทธรณ์ไม่วินิจฉัยถึงว่าโจทก์เป็นคนต่างด้าวไม่ถูกต้อง

  2. ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมเพราะไม่ได้บรรยายลักษณะของที่ดินและไม่ได้คัดสำเนาสัญญาซื้อขาย

  3. ควรเชื่อว่าจำเลยได้ครอบครองที่พิพาทตลอดมา

ศาลฎีกาเห็นว่าฎีกาของจำเลยในข้อ 1 นั้นศาลชั้นต้นสั่งให้ยกคำร้องของจำเลย จำเลยมิได้ทำคำคัดค้านโต้แย้งคำสั่งไว้แต่ประการใดจึงหมดสิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226(2)อนึ่ง พระราชบัญญัติที่ดินดังกล่าวมิได้ห้ามเด็ดขาดว่าคนต่างด้าวถือกรรมสิทธิ์ที่ดินไม่ได้ แม้ข้อที่จำเลยอ้างนี้จะเกี่ยวแก่ความสงบเรียบร้อยของประชาชนก็ดี แต่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 225 วรรคสอง ประกอบด้วยมาตรา 247 ให้ดุลพินิจแก่ศาลที่จะยกขึ้นพิจารณาหรือไม่ ในกรณีนี้ศาลฎีกาเห็นว่าศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ปฏิบัติชอบแล้ว

ฎีกาข้อ 2 เห็นว่าโจทก์ไม่จำเป็นต้องบรรยายลักษณะที่ดินเพราะโจทก์ฟ้องว่าจำเลยขัดขวางในการที่โจทก์จะทำการรังวัดที่ดินของโจทก์ ซึ่งพอที่จะทำให้จำเลยเข้าใจฟ้องได้แล้ว ไม่จำเป็นจะต้องบรรยายลักษณะที่ดิน

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยขัดขวางมิให้โจทก์นำเจ้าพนักงานทำการรังวัดโจทก์บรรยายความว่า ที่ดินของโจทก์มีสัญญาซื้อขาย ในชั้นนี้โจทก์มิได้อ้างสัญญาซื้อขายเป็นพยานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 88 โจทก์จึงไม่ต้องส่งสำเนาเอกสารให้แก่จำเลย

ฎีกาข้อ 3 คดีฟังได้ว่าโจทก์ครอบครองตลอดมา

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th