ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยใช้เงินตามเช็ค 20,000บาท กับดอกเบี้ยตั้งแต่วันผิดนัด จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า "ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 900 วรรคแรกบัญญัติว่า "บุคคลผู้ลงลายมือชื่อของตนในตั๋วเงินย่อมจะต้องรับผิดตามเนื้อความในตั๋วเงินนั้น" ประกอบด้วยมาตรา 914 ที่บัญญัติว่า "บุคคลผู้สั่งจ่ายหรือสลักหลังตั๋วแลกเงินย่อมเป็นอันสัญญาว่า เมื่อตั๋วนั้นได้นำยื่นโดยชอบแล้ว จะมีผู้รับรองและใช้เงินตามเนื้อความแห่งตั๋ว ถ้าและตั๋วแลกเงินนั้นเขาไม่เชื่อถือ โดยไม่ยอมรับรองก็ดีหรือไม่ยอมจ่ายเงินก็ดี ผู้สั่งจ่ายหรือผู้สลักหลังก็จะใช้เงินแก่ผู้ทรงหรือแก่ผู้สลักหลัง" เมื่อจำเลยให้การรับว่าได้สั่งจ่ายเช็ค 2 ฉบับตามฟ้องให้กับนายวิทยาจริง จำเลยจึงต้องรับผิดในฐานะเป็นผู้สั่งจ่าย เช็คพิพาททั้ง 2 ฉบับตามสำเนาเอกสารท้ายฟ้องเป็นเช็คที่สั่งจ่ายให้แก่ผู้ถือย่อมโอนให้แก่กันด้วยการส่งมอบ เมื่อโจทก์ได้เช็คพิพาทไว้ในความครอบครองก็ต้องถือว่าโจทก์เป็นผู้ทรงโดยสุจริตและโดยชอบด้วยกฎหมายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 904 ที่จำเลยอ้างว่าออกเช็คพิพาทให้กับนายวิทยาเพื่อเป็นการค้ำประกันการชำระเงินค่าแชร์ ต่อมาจำเลยได้ชำระเงินค่าแชร์ให้นายวิทยาซึ่งเป็นหัวหน้าวงแชร์ไปแล้ว แต่นายวิทยาไม่คืนเช็คพิพาทให้จำเลย จำเลยจึงห้ามธนาคารจ่ายเงิน โจทก์จำเลยไม่ได้มีหนี้สินต่อกันนั้นเห็นว่าเมื่อจำเลยไม่ได้ให้การต่อสู้ว่า นายวิทยาได้โอนเช็คพิพาทให้โจทก์ด้วยคบคิดกันฉ้อฉล จำเลยก็ไม่อาจอาศัยความเกี่ยวพันระหว่างจำเลยกับนายวิทยาที่จำเลยออกเช็คให้ มาเป็นข้อต่อสู้ให้พ้นความรับผิดได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 916 และที่จำเลยให้การว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้ทรงเช็คโดยสุจริตและชอบด้วยกฎหมาย จำเลยก็มิได้อ้างเหตุที่โจทก์เป็นผู้ทรงเช็คโดยไม่สุจริตและไม่ชอบด้วยกฎหมายอย่างไร จำเลยจึงไม่มีประเด็นนำสืบ เมื่อโจทก์นำเช็คพิพาทไปขึ้นเงินจากธนาคารไม่ได้ จำเลยก็ต้องรับผิดต่อโจทก์ ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ศาลชั้นต้นงดสืบพยานและพิพากษาให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วยนั้น ศาลฎีกาเห็นว่าชอบแล้ว ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น

อนึ่ง คดีนี้จำเลยฎีกาขอให้ยกคำพิพากษาของศาลล่างทั้งสองและให้ศาลชั้นต้นดำเนินการสืบพยานไปตามข้อต่อสู้ของจำเลยแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี จึงเป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ เสียค่าขึ้นศาลเพียง 200 บาทตามตาราง 1(2)(ก) ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2521 แต่จำเลยเสียค่าขึ้นศาลมา 515 บาท เกินอัตราตามกฎหมาย

พิพากษายืน ให้จำเลยใช้ค่าทนายความชั้นฎีกา 400 บาทแทนโจทก์และคืนค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาส่วนที่เกิน 200 บาทให้จำเลย"

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา เนติบัณฑิตยสภา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th