ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

Lawyer CTA
สมัครเป็นทนายออนไลน์ ง่ายๆ ไม่มีค่าใช้จ่าย
เข้าถึงผู้ใช้เว็บไซต์กว่า 4 ล้านคน
ให้คำปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ค้นหามาตรา อัปเดตฎีกา ครบ จบ ในที่เดียว
ในทุกๆ ชั่วโมงมีคำปรึกษาใหม่จากลูกความ ที่รอทนายตอบอยู่
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงิน 53,479.20 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี จากต้นเงิน 49,003.44 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ

จำเลยให้การขอให้ยกฟ้องและฟ้องแย้งขอบังคับให้โจทก์คืนเงินประกัน 20,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้องแย้งจนกว่าจะชำระเสร็จ

โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งขอให้ยกฟ้องแย้ง และยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำฟ้องโดยขอเพิ่มห้องเช่าและใช้บริการหมายเลข FM-B003 เข้ามา แต่จำนวนเงินที่เรียกร้องยังคงเดิม ศาลชั้นต้นสั่งคำคู่ความทั้งสองฉบับว่า สำเนาให้จำเลย รอสั่งในวันนัด แต่เมื่อถึงวันนัดซึ่งเป็นนัดสืบพยานโจทก์และจำเลย ศาลชั้นต้นสืบพยานทั้งสองฝ่ายไปจนเสร็จแล้วอ่านคำพิพากษาหลังเสร็จการพิจารณา

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 53,479.20 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 49,003.44 บาท นับถัดจากวันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 7 สิงหาคม 2563) เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ กับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 3,000 บาท กับให้ยกฟ้องแย้งของจำเลย ค่าฤชาธรรมเนียมในส่วนฟ้องแย้งให้เป็นพับ

จำเลยอุทธรณ์ โดยศาลอุทธรณ์ภาค 1 แผนกคดีผู้บริโภคอนุญาตให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง

ศาลอุทธรณ์ภาค 1 แผนกคดีผู้บริโภค พิพากษากลับว่า เพิกถอนคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้รับฟ้องแย้งและสั่งใหม่เป็นไม่รับฟ้องแย้ง ไม่รับคำให้การแก้ฟ้องแย้ง ไม่อนุญาตให้โจทก์แก้ไขเพิ่มเติมคำฟ้อง ยกฟ้องโจทก์ และยกคำพิพากษาศาลชั้นต้นในส่วนฟ้องแย้ง ให้คืนค่าขึ้นศาลในศาลชั้นต้นและชั้นอุทธรณ์แก่จำเลย ค่าฤชาธรรมเนียมอื่นนอกจากที่สั่งคืนให้เป็นพับทั้งสองศาล

โจทก์ฎีกา โดยศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภคอนุญาตให้ฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภควินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ที่ได้รับอนุญาตให้ฎีกาว่า การที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 แผนกคดีผู้บริโภค ให้เพิกถอนคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้รับฟ้องแย้ง และสั่งใหม่เป็นไม่รับฟ้องแย้ง ไม่รับคำให้การแก้ฟ้องแย้ง ไม่อนุญาตให้โจทก์แก้ไขเพิ่มเติมคำฟ้อง ยกฟ้องโจทก์ และยกคำพิพากษาศาลชั้นต้นในส่วนฟ้องแย้งนั้นชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เห็นว่า การฟ้องคดีนี้โจทก์ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจฟ้องจำเลยซึ่งเป็นผู้บริโภคโดยมีข้อเท็จจริงที่เป็นเหตุแห่งการฟ้องคดีรวมทั้งคำขอบังคับ ตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. 2551 มาตรา 20 ตามสัญญาเช่าพื้นที่และสัญญาบริการสำหรับห้องหมายเลข FM-B002 ในศูนย์การค้า ด. ของโจทก์ ขอให้ชำระค่าเช่ารายเดือน ค่าบริการ ค่าภาษีโรงเรือน และค่าภาษีมูลค่าเพิ่มที่ค้างชำระ จำเลยให้การและฟ้องแย้งเกี่ยวกับสัญญาเช่าพื้นที่และสัญญาบริการสำหรับห้องหมายเลข FM-B003 ที่จำเลยทำสัญญาเช่ากับโจทก์อีกสัญญาหนึ่งด้วย เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับฟ้องแย้งแล้วโจทก์จึงยื่นคำให้การแก้ฟ้องแย้งและยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำฟ้องเกี่ยวกับสัญญาเช่าพื้นที่และสัญญาบริการสำหรับห้องหมายเลข FM-B003 โดยไม่ได้ขอแก้ไขเพิ่มเติมทุนทรัพย์ ซึ่งการแก้ไขเพิ่มเติมคำฟ้อง คำฟ้องเดิมและคำฟ้องภายหลังนี้จะเกี่ยวข้องกันพอที่จะรวมการพิจารณาและชี้ขาดตัดสินเข้าด้วยกันได้ ซึ่งเมื่อพิจารณาถึงสัญญาเช่าพื้นที่ สัญญาบริการของห้องหมายเลข FM-B002 และสัญญาเช่าพื้นที่กับสัญญาบริการของห้องหมายเลข FM-B003 เป็นสัญญาที่ทำคนละฉบับ การคิดค่าเช่าและค่าบริการคิดแยกต่างหากจากกัน และการยื่นคำฟ้องคดีนี้โจทก์บรรยายคำฟ้องโดยมีข้อเท็จจริงที่เป็นเหตุแห่งการฟ้องคดีรวมทั้งคำขอบังคับชัดเจนว่าเป็นการฟ้องบังคับตามสัญญาเช่าพื้นที่และสัญญาบริการของห้องเลขที่ FM-B002 โดยแนบสัญญาเช่าพื้นที่และสัญญาบริการของห้องหมายเลข FM-B002 เป็นเอกสารท้ายคำฟ้อง แต่โจทก์อ้างใบแจ้งหนี้ค่าเช่า ภาษีโรงเรือน ค่าบริการของห้องหมายเลข FM–B003 ที่อ้างว่าค้างชำระ สำเนาหนังสือบอกกล่าวขอให้ชำระค่าเช่า ค่าบริการ ค่าภาษีโรงเรือนและค่าภาษีมูลค่าเพิ่มตามสัญญาเช่าพื้นที่และสัญญาบริการของห้องหมายเลข FM-B003 สำเนาตารางคำนวณทุนทรัพย์โดยอ้างเลขที่ใบแจ้งหนี้ ตามสัญญาเช่าพื้นที่และสัญญาบริการของห้องหมายเลข FM-B003 เป็นสำเนาเอกสารท้ายคำฟ้อง เท่านั้น และในชั้นสืบพยานโจทก์ก็นำสืบว่าจำเลยค้างชำระค่าเช่า ค่าบริการ ค่าภาษีโรงเรือนตามสัญญาเช่าพื้นที่และสัญญาบริการของห้องหมายเลข FM–B003 โดยมิได้นำสืบว่าจำเลยผิดนัดผิดสัญญาค้างชำระค่าเช่า ค่าบริการ และค่าภาษีโรงเรือนตามสัญญาเช่าพื้นที่และสัญญาบริการของห้องหมายเลข FM-B002 แต่อย่างใด ข้อเท็จจริงที่เป็นเหตุแห่งการฟ้องคดีรวมทั้งคำขอบังคับของโจทก์ตามสัญญาเช่าพื้นที่และสัญญาบริการของห้องหมายเลข FM–B002 จึงยังไม่มีการโต้แย้งสิทธิอันจะทำให้โจทก์มีสิทธิฟ้องคดีตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 ประกอบพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. 2551 มาตรา 7 และอำนาจฟ้องของโจทก์ดังกล่าวมิใช่ข้อผิดระเบียบหรือผิดหลงในการดำเนินกระบวนพิจารณาของคู่ความฝ่ายใดซึ่งจะทำให้ศาลมีคำสั่งให้คู่ความที่ดำเนินกระบวนพิจารณาผิดระเบียบหรือผิดหลงนั้นทำการแก้ไขให้ถูกต้องภายในระยะเวลาและเงื่อนไขที่ศาลเห็นสมควรกำหนด และไม่ใช่เรื่องคำฟ้องไม่ถูกต้องหรือขาดสาระสำคัญบางเรื่องอันจะทำให้ศาลมีคำสั่งให้โจทก์แก้ไขคำฟ้องในส่วนนั้นให้ถูกต้องหรือชัดเจนได้ตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. 2551 มาตรา 9 และมาตรา 20 วรรคสอง เมื่อโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องทำให้คำฟ้องเดิมไม่มีตั้งแต่ต้น ดังนั้น การที่โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำฟ้องตามสัญญาเช่าพื้นที่และสัญญาบริการของห้องหมายเลข FM-B003 เข้ามาภายหลังเพื่อให้คำฟ้องที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายเป็นคำฟ้องที่ชอบด้วยกฎหมายย่อมไม่ชอบตามพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. 2551 มาตรา 20 มาตรา 21 และแม้การแก้ไขเพิ่มเติมคำฟ้องของโจทก์ดังกล่าวศาลชั้นต้นพิจารณาและมีคำพิพากษาไปแล้ว กรณีจึงพอถือได้ว่าศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์แก้ไขเพิ่มเติมคำฟ้อง และอำนาจในการพิจารณาสั่งตามบทบัญญัติกฎหมายดังกล่าวเป็นวิธีพิจารณาในศาลชั้นต้นก็ตาม แต่บทบัญญัติแห่งกฎหมายวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภคในศาลชั้นต้นนั้นต้องนำไปใช้บังคับแก่การพิจารณาและการชี้ขาดตัดสินคดีในชั้นอุทธรณ์และชั้นฎีกาด้วยอนุโลมตามพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. 2551 มาตรา 50 และมาตรา 55 และปัญหาเรื่องอำนาจฟ้องดังกล่าวเป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน เมื่อศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาเห็นสมควร ศาลจะยกข้อเหล่านั้นขึ้นวินิจฉัยแล้วพิพากษาคดีไปก็ได้ ทั้งนี้ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142 (5) ประกอบพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. 2551 มาตรา 7 ดังนั้น เมื่อคำฟ้องเดิมของโจทก์ไม่ชอบด้วยกฎหมายถือว่าไม่มีคำฟ้องเดิม โจทก์จึงไม่มีอำนาจยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำฟ้อง และเมื่อไม่มีคำฟ้องเดิมตั้งแต่แรกย่อมทำให้จำเลยไม่มีอำนาจฟ้องแย้งตามพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. 2551 มาตรา 20 มาตรา 21 ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา ผบ.(พ)384/2566

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th