ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อปี 2509 โจทก์จดทะเบียนสมรสกับจำเลยระหว่างอยู่กินด้วยกัน จำเลยมักหาเรื่องทะเลาะกับโจทก์และประพฤติตนไม่เหมาะสมในฐานะภริยาของโจทก์ซึ่งรับราชการเป็นเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศต่าง ๆ ทำให้โจทก์ถูกตำหนิจากผู้บังคับบัญชา และผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นประจำ จนกระทั่งกลางปี 2535 โจทก์จำเลยมีปากเสียงกันจึงสมัครใจแยกกันอยู่จนถึงปัจจุบัน โจทก์ประสงค์จดทะเบียนหย่าแต่จำเลยไม่ยินยอมขอพิพากษาให้โจทก์จำเลยหย่าขาดจากกัน

จำเลยให้การว่า ระหว่างโจทก์จำเลยอยู่กินร่วมกันจำเลยไม่เคยหาเรื่องทะเลาะกับโจทก์ ไม่เคยประพฤติไม่เหมาะสมอันจะนำความเสื่อมเสียมาสู่โจทก์ ไม่เคยทำให้โจทก์ถูกตำหนิจากผู้บังคับบัญชาหรือผู้ใต้บังคับบัญชาและไม่เคยสมัครใจแยกกันอยู่ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีเยาวชนและครอบครัววินิจฉัยว่า"พิเคราะห์แล้ว มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ในชั้นนี้เพียงว่า โจทก์จำเลยสมัครใจแยกกันอยู่เพราะเหตุไม่อาจอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยาได้โดยปกติสุขตลอดมาเกิน 3 ปีอันเป็นเหตุหย่าหรือไม่ คดีได้ความว่า เมื่อปี 2509 โจทก์จำเลยจดทะเบียนสมรสกัน โจทก์รับราชการที่กระทรวงการต่างประเทศ ส่วนจำเลยรับราชการที่กระทรวงพัฒนาการแห่งชาติ โจทก์และนางดารา ติ่งสูงเนิน พยานโจทก์ซึ่งเป็นน้องสาวโจทก์เบิกความเป็นสำคัญว่านับแต่ปี 2519 เป็นต้นมา โจทก์จำเลยไม่อาจอยู่ร่วมกันโดยปกติสุข จำเลยไม่สนใจในภาษาอังกฤษทั้ง ๆ ที่โจทก์พยายามส่งเสริมสนับสนุน เป็นเหตุขัดข้องต่อการออกงานสังคมร่วมกันในต่างประเทศ จำเลยชอบแนะนำบุตรสาวให้รู้จักกับผู้ชายที่มีฐานะทางสังคมเป็นที่ยุ่งยากใจแก่โจทก์ทั้งโจทก์เบิกความด้วยว่า ต่อจากนั้นโจทก์จำเลยคงขัดแย้งมีปากเสียงกันมาตลอดถึงกับตกลงจะจดทะเบียนหย่ากัน แต่ในที่สุดจำเลยกลับไม่จดทะเบียนหย่าให้ โจทก์จึงย้ายไปพักอาศัยอยู่กับนางดาราน้องสาวโจทก์ เมื่อครั้งที่โจทก์เดินทางไปรับราชการที่สาธารณรัฐโปแลนด์และรัฐคูเวต จำเลยก็มิได้ติดตามไปอยู่ด้วยเพราะสมัครใจแยกกันอยู่ ส่วนจำเลยเบิกความว่าจำเลยไม่เคยประพฤติให้โจทก์เสื่อมเสียชื่อเสียง แม้โจทก์จำเลยมีปากเสียงกันแต่ก็คงอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยาตามปกติมาตลอด ที่โจทก์ไปอยู่กับนางดาราน้องสาวโจทก์เป็นเพราะความสมัครใจของโจทก์เองส่วนที่จำเลยไม่ได้ติดตามไปอยู่กับโจทก์ที่สาธารณรัฐโปแลนด์และรัฐคูเวต เพราะโจทก์ไม่ให้ความยินยอมในการขอวีซ่าของจำเลยจำเลยมิได้สมัครใจแยกกันอยู่กับโจทก์ทั้งจำเลยเบิกความด้วยว่าโจทก์เคยเสนอเงินแก่จำเลยเป็นจำนวนสูงถึง 1,500,000 บาทเพื่อให้จำเลยจดทะเบียนหย่า แต่จำเลยไม่ตกลงด้วยเพราะประสงค์จะอยู่กินกับโจทก์ต่อไป เห็นว่า พยานหลักฐานของจำเลยมีเหตุผลและน้ำหนักดีกว่าพยานหลักฐานของโจทก์ ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าการที่จำเลยไม่ได้อยู่กับโจทก์ฉันสามีภริยาที่ต่างประเทศเนื่องจากโจทก์ไม่ให้ความยินยอมในการทำหนังสืออนุญาตเข้าประเทศ(วีซ่า) แก่จำเลย ต่อมาเมื่อโจทก์กลับมารับราชการภายในประเทศไทยโจทก์เป็นฝ่ายแยกไปอยู่ต่างหากกับน้องสาวของโจทก์เองถือว่าโจทก์สมัครใจแยกกันอยู่กับจำเลยแต่ฝ่ายเดียว แต่จำเลยไม่ได้สมัครใจแยกกันอยู่กับโจทก์ หาใช่เป็นกรณีที่โจทก์จำเลยสมัครใจแยกกันอยู่เพราะเหตุไม่อาจอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยาได้โดยปกติสุขตลอดมาเกิน 3 ปี อันเป็นเหตุให้โจทก์ฟ้องหย่าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1516(4/2) แต่อย่างใดไม่ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องนั้นชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น"

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th