ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นนิติบุคคลตามกฎหมายและได้รับอนุญาตจากจังหวัดฯให้นำข้าวสารไปจำหน่ายให้องค์การคลังสินค้า โจทก์มอบให้ชมรมโรงสีจังหวัดฯ เป็นผู้จัดซื้อข้าวเปลือกจากสมาชิกของโจทก์ แล้วแปรสภาพเป็นข้าวสารนำไปขาย จำเลยเป็นประธานกลุ่มของโจทก์ได้เป็นตัวแทนในการให้ชมรมโรงสีจัดซื้อข้าวเปลือกเพื่อนำไปแปรสภาพเป็นข้าวสารส่งไปจำหน่ายให้องค์การคลังสินค้าในนามของโจทก์ แต่จำเลยร่วมกับโรงสีนำข้าวสารไปจำหน่ายโดยไม่ได้ซื้อข้าวเปลือกจากสมาชิกและจำเลยเบียดบังเอาผลประโยชน์ซึ่งเป็นกำไรจากการจำหน่ายข้าวสารไปโดยทุจริต ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352, 353

ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วสั่งว่าคดีมีมูล

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้องพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลชั้นต้นรับอุทธรณ์โดยอ้างว่าเป็นปัญหาข้อกฎหมาย

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยเป็นตัวแทนโจทก์ได้รับมอบหมายให้ร่วมกับชมรมโรงสีจัดซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกรสมาชิกของโจทก์ กระทำผิดหน้าที่โดยนำข้าวสารของโรงสีไปจำหน่ายให้องค์การคลังสินค้าโดยทุจริต และมีเจตนาทุจริตเบียดบังเงินค่าบริการซึ่งโจทก์จะได้รับจากชมรมโรงสี พิพากษากลับ จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 353 จำคุก 1 ปี 6 เดือน และมาตรา 352 จำคุก 6 เดือน ให้เรียงกระทงลงโทษรวมจำคุก 2 ปี

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า '….คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352, 353 ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยไม่ได้รับมอบหมายจากโจทก์ให้ร่วมกับชมรมโรงสีจัดซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกรสมาชิกของโจทก์ และฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตเบียดบังเงินค่าบริการของโจทก์ พิพากษายกฟ้อง เป็นการยกฟ้องในปัญหาข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นในปัญหาข้อเท็จจริงตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499 มาตรา 22แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2503 มาตรา 10 การที่โจทก์อุทธรณ์ว่าพยานหลักฐานโจทก์ฟังได้ว่าจำเลยเป็นตัวแทนโจทก์โดยให้จำเลยร่วมกับชมรมโรงสีจัดซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกรสมาชิกของโจทก์ จำเลยกระทำผิดหน้าที่โดยนำข้าวของโรงสีไปจำหน่ายให้แก่องค์การคลังสินค้า และจำเลยมีเจตนาทุจริตเบียดบังเงินของโจทก์เป็นการโต้เถียงในข้อเท็จจริงว่าจำเลยได้ร่วมกับชมรมโรงสีกระทำผิดหน้าที่ของจำเลย และจำเลยมีเจตนาทุจริตเบียดบังเงินของโจทก์ จึงเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงซึ่งต้องห้ามตามบทกฎหมายดังกล่าว ดังนั้น การที่ศาลอุทธรณ์รับวินิจฉัยข้อเท็จจริงให้ตามอุทธรณ์ของโจทก์ จึงเป็นการวินิจฉัยโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ต้องถือว่าข้อเท็จจริงยุติตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น

พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ และยกฎีกาจำเลย'

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา 01

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th