ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

Lawyer CTA
สมัครเป็นทนายออนไลน์ ง่ายๆ ไม่มีค่าใช้จ่าย
เข้าถึงผู้ใช้เว็บไซต์กว่า 4 ล้านคน
ให้คำปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ค้นหามาตรา อัปเดตฎีกา ครบ จบ ในที่เดียว
ในทุกๆ ชั่วโมงมีคำปรึกษาใหม่จากลูกความ ที่รอทนายตอบอยู่
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2534 จำเลยที่ 1 ทำสัญญาขายลดเช็คไว้กับโจทก์ในวงเงินไม่เกิน 2,000,000 บาท ยอมเสียดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 20 ต่อปีและตกลงให้โจทก์ปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยได้ตามประกาศของทางราชการและในวันเดียวกันนั้นจำเลยที่ 2 และนายดำริห์ ก่อนันทเกียรติ ได้ทำหนังสือสัญญาค้ำประกันไว้ในวงเงินไม่เกินวงเงินดังกล่าวข้างต้น โดยยินยอมร่วมกันรับผิดกับจำเลยที่ 1 อย่างลูกหนี้ร่วม ต่อมาจำเลยที่ 1 ได้นำเช็คธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)สาขายศเส ลงวันที่ 22 ธันวาคม 2537 จำนวนเงิน 2,000,000 บาท มาขายลดแก่โจทก์และรับเงินไปเรียบร้อยแล้ว ต่อมาธนาคารตามเช็คได้ปฏิเสธการจ่ายเงินเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2537 โจทก์ทวงถามไปยังจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 และนายดำริห์แล้ว จำเลยที่ 1 ได้ชำระดอกเบี้ยบางส่วน เมื่อคำนวณถึงวันฟ้องแล้วจำเลยที่ 1 เป็นหนี้ต้นเงิน 2,000,000 บาท และดอกเบี้ย 299,176.80 บาทรวมเป็นเงิน 2,299,176.80 บาท นายดำริห์ได้ถึงแก่ความตายไปแล้ว โดยมีจำเลยที่ 3 เป็นผู้จัดการมรดก ขอให้บังคับจำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงินจำนวนดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 21 ต่อปี จากต้นเงิน 2,000,000 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยทั้งสองจะชำระเสร็จแก่โจทก์

จำเลยที่ 1 และที่ 3 ได้การว่า จำเลยที่ 1 ไม่เคยทำสัญญาขายลดเช็คและนำเช็คไปขายให้กับโจทก์ตามฟ้อง แต่โจทก์มีเจตนาซื้อเช็คไว้เป็นสินค้าชนิดหนึ่งโจทก์จึงเป็นเจ้าของผู้มีกรรมสิทธิ์ในเช็คหากเกิดภัยพิบัติหรือความชำรุดเสียหายโจทก์เป็นผู้มีกรรมสิทธิ์จึงต้องรับกรรมไปตามหลักเรื่องกรรมสิทธิ์ จำเลยที่ 3 ไม่เคยทำสัญญาค้ำประกันกับโจทก์ ขอให้ยกฟ้อง

จำเลยที่ 2 ให้การว่า นายดำริห์ได้ทำหนังสือรับสภาพหนี้ขอผัดผ่อนชำระหนี้โจทก์ได้ยอมรับและไม่ปฏิเสธตามหนังสือข้างต้นหนี้ที่เกิดจากสัญญาขายลดเช็คจึงเป็นการรับสภาพหนี้และเป็นการแปลงหนี้ใหม่ หนี้ตามสัญญาขายลดเช็คจึงเป็นอันระงับสิ้นไปโดยการแปลงหนี้ใหม่ จำเลยที่ 2 จึงไม่ต้องรับผิดอีกต่อไปขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงิน 2,060,904.11 บาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 21 ต่อปี ในต้นเงิน 2,000,000 บาท นับแต่วันที่ 27เมษายน 2538 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ แต่ทั้งนี้ดอกเบี้ยคำนวณถึงวันฟ้องต้องไม่เกิน 238,272.69 บาท

จำเลยที่ 2 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยที่ 2 ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "ข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังเป็นยุติได้ว่าเมื่อวันที่ 6กุมภาพันธ์ 2534 จำเลยที่ 1 ได้ทำสัญญาขายลดเช็คไว้แก่โจทก์ในวงเงิน2,000,000 บาท ดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 20 ต่อปี และตกลงให้โจทก์ปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยได้ในวันเดียวกันนั้นจำเลยที่ 2 และนายดำริห์ ก่อนันทเกียรติได้เข้าทำสัญญาค้ำประกันหนี้สินทุกชนิดบรรดาที่จำเลยที่ 1 ได้เป็นหนี้โจทก์ทั้งหมดโดยยอมรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วม ต่อมาจำเลยที่ 1 ได้นำเช็คของธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ลงวันที่ 22 ธันวาคม 2534 จำนวนเงิน 2,000,000บาท ไปขายลดไว้แก่โจทก์ โจทก์ได้จ่ายเงินแก่จำเลยที่ 1 แล้ว ครั้นเมื่อวันที่ 27ธันวาคม 2537 ธนาคารตามเช็คได้ปฏิเสธการจ่ายเงิน…

ปัญหาตามฎีกาประการที่สองมีว่า ตามเอกสารหมาย ล.1 ฉบับลงวันที่12 พฤษภาคม 2538 นั้น นายดำริห์ ก่อนันทเกียรติ ยอมรับผิดต่อโจทก์ในหนี้ทั้งตามสัญญาขายลดเช็คและหนี้ของบริษัทยูนิคอด จำกัด โดยนำยอดหนี้มาร่วมกันและขอผ่อนชำระเป็นงวด ๆ อันเป็นการเปลี่ยนแปลงในสาระสำคัญของหนี้เป็นการแปลงหนี้ใหม่ มิใช่รับสภาพหนี้ใหม่ อันเป็นผลให้หนี้เดิมระงับเมื่อจำเลยที่ 2 ไม่ได้ตกลงยินยอมด้วย จำเลยที่ 2 จึงไม่ต้องรับผิดตามฟ้องนั้นเห็นว่า อันการแปลงหนี้ใหม่นั้นเป็นสัญญาระหว่างคู่กรณีที่เกี่ยวข้องมุ่งประสงค์จะระงับหนี้เก่าแล้วก่อให้เกิดหนี้สินความผูกพันอันใหม่ผูกพันกันต่อไป โดยตกลงกันเปลี่ยนแปลงสิ่งซึ่งเป็นสาระสำคัญแห่งหนี้แต่เมื่อพิจารณาเอกสารหมาย ล.1 โดยละเอียดแล้วจะเห็นได้ว่าเป็นเพียงหนังสือที่นายดำริห์มีไปถึงโจทก์เพื่อขอผ่อนชำระหนี้ทั้งหนี้ของจำเลยที่ 1 และหนี้ของบริษัทยูนิคอดจำกัด ซึ่งควรจะชำระหนี้ดังกล่าวแก่โจทก์ให้เสร็จสิ้นในครั้งเดียว แต่ก็ขอแบ่งชำระเป็นงวด ๆ เท่านั้น จึงเป็นเพียงเปลี่ยนแปลงวิธีชำระหนี้เก่าให้ผิดไปจากเดิม หาเป็นการเปลี่ยนสิ่งซึ่งเป็นสาระสำคัญแห่งหนี้แต่ประการใดไม่ดังนั้น ข้ออ้างของจำเลยที่ 2 จึงฟังไม่ขึ้น"

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงิน 2,000,000 บาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 20 ต่อปี ในต้นเดือน 2,000,000 บาท นับแต่วันที่28 กุมภาพันธ์ 2538 เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา เนติบัณฑิตยสภา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th