ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง
คำปรึกษามากกว่า
10,000+
ทนายความตัวจริง
500+


คดีนี้เป็นคดีมโนสาเร่ สืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ โจทก์ยื่นอุทธรณ์พร้อมกับคำร้องขอขยายระยะเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมศาลชั้นอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ขยายระยะเวลาจนถึงวันที่ 15 มกราคม 2562 โจทก์ไม่นำค่าธรรมเนียมศาลชั้นอุทธรณ์มาวางต่อศาลชั้นต้นภายในกำหนด ศาลชั้นต้นมีคำสั่งเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2562 ว่า ถือว่าโจทก์ทิ้งอุทธรณ์ จึงมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์ ต่อมาวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2562 โจทก์ยื่นคำร้องขออนุญาตวางเงินค่าธรรมเนียมศาลชั้นอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ศาลมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์แล้วเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2562 กรณีไม่เข้าเหตุสุดวิสัย ไม่อนุญาต ยกคำร้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 บัญญัติว่า "ถ้าศาลชั้นต้นไม่รับอุทธรณ์ ผู้อุทธรณ์อาจอุทธรณ์คำสั่งศาลนั้นไปยังศาลอุทธรณ์โดยยื่นคำขอเป็นคำร้องต่อศาลชั้นต้น และนำค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงมาวางศาลและนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลภายในกำหนด 15 วัน นับแต่วันที่ศาลได้มีคำสั่ง" ดังนั้นเมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์ โจทก์ต้องยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์ แต่โจทก์ไม่ได้ยื่น คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์จึงเป็นที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 147 วรรคสอง โจทก์ไม่อาจยื่นคำร้องขออนุญาตวางเงินค่าธรรมเนียมศาลชั้นอุทธรณ์ได้อีก แม้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องของโจทก์ โจทก์ก็ไม่มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้น ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 รับวินิจฉัยอุทธรณ์ของโจทก์จึงไม่ชอบและไม่ก่อให้เกิดสิทธิที่จะฎีกา ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยฎีกาของโจทก์
พิพากษายกอุทธรณ์ของโจทก์ ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 และยกฎีกาของโจทก์ คืนค่าธรรมเนียมศาลทั้งหมดในชั้นอุทธรณ์และชั้นฎีกาแก่โจทก์ ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์และฎีกานอกจากนี้ให้เป็นพับ
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา พ.46/2563
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา








