ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง
คำปรึกษามากกว่า
10,000+
ทนายความตัวจริง
500+


โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2518 เวลากลางคืนก่อนเที่ยงจำเลยกับนายสืบสันต์หรือเปี๊ยก สัญญจิตร และพวกอีกหลายคนซึ่งยังไม่ได้ตัวมาฟ้องได้บังอาจร่วมกันใช้มีดพกแทงทำร้ายนายวันชัย พุ่มคง ผู้เสียหายหลายทีถูกที่หน้าอกและหน้าท้องโดยเจตนาฆ่าให้ตาย จำเลยกับพวกได้กระทำไปตลอดแล้ว แต่การกระทำไม่บรรลุผลเพราะแพทย์ได้รักษาพยาบาลไว้ได้ทันผู้เสียหายจึงไม่ถึงแก่ความตายสมดังเจตนาของจำเลยเพียงแต่ได้รับอันตรายแก่กายถึงบาดเจ็บสาหัสป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่ายี่สิบวันและประกอบกรณียกิจตามปกติไม่ได้เกินกว่ายี่สิบวัน ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80, 297, 83
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288, 80, 83 ลดมาตราส่วนโทษ (ที่ถูกวางโทษสองในสามส่วน) แล้วให้จำคุกจำเลยมีกำหนด 10 ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 297, 83 จำคุกจำเลยมีกำหนด 5 ปี
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามข้อเท็จจริงที่ฟังได้ว่าจำเลยกับพวก 4 - 5 คนได้เข้ามาพูดจาหาเรื่องวิวาทกับผู้เสียหายโดยพวกจำเลยคนหนึ่งถามผู้เสียหายเมื่อผู้เสียหายตอบก็ชกผู้เสียหายที่บริเวณหน้า จากนั้นก็ชักมีดออกมาแทงถูกที่ท้องผู้เสียหายรู้สึกชาและงงอยู่ พวกของจำเลยอีกคนหนึ่งก็เข้ามาแทงซ้ำถูกที่หน้าอกโดยจำเลยกับพวกที่เหลือกันพวกผู้เสียหายไว้ ผู้เสียหายมีบาดแผลที่หน้าท้องส่วนบนขวายาว 2 เซนติเมตร กว้าง 1 เซนติเมตร ลึกเข้าไปในช่องท้องถูกลำไส้เล็กแผลที่หน้าอกขวายาว 2 เซนติเมตร กว้าง 1 เซนติเมตรลึก 0.5 เซนติเมตรแพทยผู้ให้การรักษาเบิกความว่าการรักษาต้องผ่าหน้าท้องเพื่อเย็บเส้นเลือดที่ขาดภายในและลำไส้เล็กที่ขาดเลือดตกในช่องท้อง 150ลูกบาศก์เซนติเมตร แผลที่หน้าอกติดซี่โครง ถ้าไม่ติดซี่โครงก็ทะลุปอดเป็นบาดแผลสำคัญทั้งสองแห่งถ้ารักษาไม่ทันตายแน่นอน ดังนี้ ลักษณะการแทงถูกตรงอวัยวะที่สำคัญและผลการรักษาย่อมส่อแสดงเจตนาว่ามีเจตนาจะฆ่าให้ตาย ฝ่าจำเลยเป็นผู้เข้าแทงทำร้ายฝ่ายเดียวโดยผู้เสียหายกับพวกไม่ได้ทำอะไรโต้ตอบเลย จึงมีโอกาสเลือกแทงในทีสำคัญได้ ฟังได้ว่าจำเลยกับพวกได้ร่วมกันพยายามฆ่าผู้เสียหาย
พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ลงโทษจำเลยตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา









