คดีสืบเนื่องจากศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 วรรคสอง จำคุก 3 ปี ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 2 ปี จำเลยที่ 2 อุทธรณ์ ผู้ประกันยื่นคำร้องขอให้ปล่อยตัวจำเลยที่ 2ชั่วคราวในระหว่างอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวโดยตีราคาประกันเป็นเงินสองแสนบาท ต่อมาศาลชั้นต้นนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 เมื่อถึงวันนัด จำเลยที่ 2 และผู้ประกันไม่มาศาล ศาลชั้นต้นเห็นว่า ผู้ประกันผิดสัญญาประกัน ให้ปรับผู้ประกันตามสัญญา ให้ออกหมายจับจำเลยที่ 2 และเลื่อนนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 ครั้นถึงวันนัดศาลชั้นต้นเห็นว่าได้ออกหมายจับจำเลยที่ 2 ไปกว่าหนึ่งเดือนแล้ว จึงอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 ลับหลังจำเลยที่ 2 ต่อมาผู้ประกันยื่นคำร้องว่าผู้ประกันและนางสาวนิภาพร วานิชกุล ผู้รับมอบอำนาจไม่ทราบวันนัด เนื่องจากเจ้าพนักงานศาลไปส่งหมายนัดให้ที่บ้านเลขที่ 37 ถนนประชารักษ์ตำบลหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา แต่ผู้ประกันและผู้รับมอบอำนาจได้ย้ายไปอยู่ที่บ้านเลขที่ 370 ถนนธรรมนูญวิถีตำบลหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา แล้ว ขอให้เพิกถอนคำสั่งปรับผู้ประกันหรือปรับในสถานเบา

ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้อง

ผู้ประกันอุทธรณ์ ขอให้ศาลไต่สวนคำร้องขอเพิกถอนคำสั่งปรับนายประกัน และมีคำสั่งต่อไป

ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน

ผู้ประกันฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปรากฏตามรายงานเจ้าหน้าที่ ลงวันที่28 พฤษภาคม 2533 และบันทึกการปิดหมาย ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ศาลได้ไปส่งหมายนัดให้ผู้ประกันที่บ้านเลขที่ 370 ตำบลหาดใหญ่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ตามที่ผู้ประกันอ้างว่าได้ย้ายไปอยู่แล้ว มิได้ไปส่งที่บ้านเลขที่ 37 ถนนประชารักษ์ ตำบลหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ดังที่ผู้ประกันกล่าวอ้าง แต่ถึงแม้จะฟังว่าไปส่งที่บ้านเลขที่ 37 ถนนประชารักษ์ตำบลหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ก็ตรงกับที่อยู่ของผู้ประกัน ตามคำร้องขอปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 2 ในระหว่างอุทธรณ์ การส่งหมายนัดให้ผู้ประกันจึงชอบแล้ว

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา