ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้ศาลบังคับจำเลยส่งเด็กชายสุรินทร์ให้โจทก์

จำเลยให้การต่อสู้หลายประการ

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1526บัญญัติว่า เด็กเกิดก่อนสมรสจะเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมาย (ของบิดา) ต่อเมื่อ … ศาลพิพากษาว่าเป็นบุตร (ของบิดา) และเมื่อปรากฏตามคำรับกันของคู่ความว่าเวลานี้ศาลได้พิพากษาในคดีแพ่งแดงที่135/2504 ว่าเด็กชายสุรินทร์เป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของจำเลยที่ 1 (บิดา) ซึ่งเป็นเวลาก่อนศาลชั้นต้นพิพากษาคดีนี้ และปรากฏว่าคำพิพากษาดังกล่าวได้เด็ดขาดคู่ความไม่ฎีกาต่อไป ดังนั้นเด็กชายสุรินทร์จึงเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของจำเลยที่ 1 ด้วยและในกรณีที่เด็กชายสุรินทร์เป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของโจทก์และจำเลยที่ 1 และยังไม่บรรลุนิติภาวะก็ต้องอยู่ใต้อำนาจปกครองมาตรา 1537 บัญญัติว่า อำนาจปกครองนั้นอยู่แก่บิดา คือ จำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 ผู้ใช้อำนาจปกครองจึงมีสิทธิกำหนดที่อยู่ของเด็กชายสุรินทร์ โจทก์หามีสิทธิอันนี้ไม่ การที่ขณะนี้เด็กชายสุรินทร์อยู่กับจำเลยและปรากฏตามคำฟ้องและคำให้การว่า โจทก์ไปขอรับจากจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 ขัดขวางนั้น เป็นการแสดงว่าจำเลยที่ 1 ใช้อำนาจปกครอง กำหนดที่อยู่ของเด็กชายสุรินทร์ให้อยู่กับจำเลยไม่ให้อยู่กับโจทก์ โจทก์มิใช่ผู้ใช้อำนาจปกครอง จึงไม่มีสิทธิตามมาตรา 1539 ที่จะกำหนดที่อยู่ของเด็กชายสุรินทร์ ไม่มีสิทธิเรียกเด็กชายสุรินทร์จากจำเลย โจทก์อ้างว่าไม่มีกฎหมายห้ามหญิงฟ้องสามีเรียกบุตร โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องได้ ดังนั้น โจทก์ย่อมชนะคดีตามข้อตกลง นั้น ข้อตกลงมีตามรายงานกระบวนพิจารณาเพียงว่าคู่ความไม่ติดใจสืบพยานขอให้ศาลวินิจฉัยไปตามท้องสำนวนในประเด็นว่า โจทก์มีอำนาจตามกฎหมายเรียกบุตรคืนจากจำเลยหรือไม่ กล่าวโดยเฉพาะคู่ความมิได้ท้ากันว่า เพียงมีข้อโต้แย้งเกิดขึ้นเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ของโจทก์และจำเลยตามกฎหมายแพ่ง ซึ่งทำให้โจทก์ฟ้องคดีต่อศาลได้แล้ว ก็ให้โจทก์ชนะคดี หากแต่ขอให้ศาลวินิจฉัยไปตามท้องสำนวนว่า จะทำให้โจทก์มีสิทธิตามกฎหมายเรียกให้จำเลยส่งเด็กชายสุรินทร์แก่โจทก์หรือไม่ จะทำให้จำเลยมีนิติสัมพันธ์ต้องส่งเด็กชายสุรินทร์แก่โจทก์หรือไม่

เมื่อข้อเท็จจริงตามท้องสำนวน จำเลยที่ 1 เป็นผู้ใช้อำนาจปกครองโจทก์มิใช่ผู้ใช้อำนาจปกครอง โจทก์จึงไม่มีสิทธิตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1539 ที่จะกำหนดที่อยู่ของเด็กชายสุรินทร์ ที่จะเรียกเด็กชายสุรินทร์คืนจากจำเลย จำเลยไม่มีนิติสัมพันธ์ ไม่มีหน้าที่ต่อโจทก์ที่จะต้องส่งเด็กชายสุรินทร์ให้โจทก์ดังฟ้อง ดังนั้น โจทก์ก็ไม่ชนะคดีตามข้อตกลง

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th