ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ให้ลงโทษจำเลยที่ 1ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 24, 55, 72, 87 แก้ไขพ.ศ. 2501 ฉบับที่ 3 มาตรา 5, 68 จำคุก 10 ปี โจทก์จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า "ข้อเท็จจริงคงฟังได้ว่า เมื่อวันที่ 29พฤศจิกายน 2518 เวลากลางวัน เจ้าพนักงานตำรวจจับจำเลยที่ 1 ได้พร้อมด้วยของกลาง โดยค้นได้จากบ้านพักจำเลยที่ 1 และที่ห้องทำงานของจำเลยที่ 1ในโรงเรียนบ้านปากบางสะกอม ตำบลสะกอม อำเภอเทพา จังหวัดสงขลามีอาวุธปืนพกออโตเมติก ขนาด .45 มม. 1 กระบอก แม็กกาซีน 1 อัน กระสุนขนาด .45 มม. 19 นัด อาวุธปืนเร็วแมดเสน 1 กระบอกแม็กกาซีน 1 อัน กระสุนที่ใช้กับปืน 4 นัด ตามเอกสารหมายเลข จ.1 แม็กกาซีนแมดเสน 2 อัน เอกสาร 1ฉบับหมาย จ.2 อาวุธปืนคาร์ไบน์ เอ็มวัน 1 กระบอก บรรจุกระสุน 30 นัดตามเอกสารหมาย จ.4 แม็กกาซีนปืนเอ็ม 16 จำนวน 8 อัน กระสุนเอ็ม 16 จำนวน27 นัด อาวุธปืนเอ็ม 16 จำนวน 6 กระบอก กระสุนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน50 นัด เอกสาร 14 แผ่นตามเอกสารหมาย จ.5 ปัญหาที่มาสู่ศาลฎีกาตามฎีกาของจำเลยที่ 1 คงมีว่าจำเลยที่ 1 มีอาวุธปืนของกลางไว้ในครอบครองและเพื่อจำหน่ายหรือไม่ จำเลยที่ 1 ได้รับความคุ้มครองจากคำสั่งคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 12 ลงวันที่ 7 ตุลาคม 2519 หรือไม่ ศาลฎีกาเห็นว่าการยึดอาวุธปืนของกลางได้จากการครอบครองของจำเลยที่ 1 โดยได้จากบ้านพักและห้องทำงานของจำเลยที่ 1 นั้น เมื่อเจ้าพนักงานเข้าตรวจค้นจำเลยที่ 1ก็มีพิรุธให้จำเลยที่ 1 เปิดตู้เหล็ก จำเลยที่ 1 ก็ไม่ยอมเปิด เจ้าพนักงานตำรวจต้องเปิดเองโดยใช้กุญแจอื่นไข พบของกลางซุกซ่อนไว้ เชื่อได้ว่าจำเลยที่ 1มีอาวุธปืนฯ ของกลางไว้ในครอบครอง ของกลางที่ตรวจค้นได้ก็ล้วนแต่เป็นอาวุธปืนและกระสุนปืนที่ร้ายแรงหลายชนิด จำนวนมาก ทั้งตามเอกสารที่โต้ตอบกันระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 ตามเอกสารหมาย จ.3 และ จ.7ก็มีข้อความเป็นเรื่องซื้อขายอาวุธปืนและกระสุนปืน เชื่อได้ว่าเป็นการมีไว้เพื่อการค้าและจำหน่าย ส่วนที่จำเลยที่ 1 ฎีกาว่าได้รับความคุ้มครองจากคำสั่งคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 12 ลงวันที่ 7 ตุลาคม 2519 จำเลยที่ 1จึงไม่ต้องรับโทษนั้น เห็นว่าประกาศของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 12ลงวันที่ 7 ตุลาคม 2519 ยกเว้นโทษให้แก่ผู้นำอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนหรือวัตถุระเบิด สำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงครามไว้ในครอบครองนำไปมอบให้พนักงานเจ้าหน้าที่ภายในเวลาที่กำหนดแล้วไม่ต้องรับโทษนั้น มิได้คุ้มครองถึงกรณีที่มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่มีไว้เพื่อการค้า ตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ 1720/2520 ระหว่างพนักงานอัยการจังหวัดสุโขทัย โจทก์ นายวันชัยโสดา กับพวกจำเลย คดีนี้จำเลยมีไว้เพื่อการค้าซึ่งอาวุธปืนฯ 2 ชนิด คืออาวุธปืนฯ ที่ใช้เฉพาะแต่ในการสงคราม และอาวุธปืนฯ ธรรมดา จำเลยจึงมีความผิดตามฟ้อง ที่ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำเลยที่ 1 มานั้นต้องด้วยความเห็นศาลฎีกา ฎีกาจำเลยที่ 1 ฟังไม่ขึ้น ส่วนที่โจทก์ฎีกาขอให้ริบของกลางด้วยนั้นศาลฎีกาเห็นว่าอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนทั้งหมดเป็นทรัพย์ที่มีไว้เป็นความผิดต้องริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32 และการที่จำเลยมีไว้เพื่อจำหน่ายย่อมจะได้ชื่อว่ามีทรัพย์เหล่านั้นไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 ด้วย"

พิพากษาแก้ ให้ริบของกลางด้วย

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา เนติบัณฑิตยสภา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th