ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

คดีนี้สืบเนื่องมาจากโจทก์ทั้งสามฟ้องขอให้จำเลยทั้งสองใช้ค่าเสียหาย กรณีลูกจ้างของจำเลยขับรถยนต์ชนรถจักรยานยนต์เป็นเหตุให้บุตรสาวของโจทก์ที่ 1 ถึงแก่ความตาย นางสาวขวัญใจ นิสสัย และโจทก์ที่ 3 ได้รับบาดเจ็บสาหัส โจทก์ทั้งสามจึงนำคดีมาฟ้อง

จำเลยทั้งสองขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ที่ 1 โจทก์ที่ 2 และโจทก์ที่ 3 เป็นเงิน 269,763 บาท 102,000 บาทและ 90,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยตามลำดับ

จำเลยที่ 2 ร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่

ศาลชั้นต้นไต่สวนและมีคำสั่งยกคำร้อง

จำเลยที่ 2 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาคดีนี้ใหม่

โจทก์ทั้งสามฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "ตามทางไต่สวนจำเลยที่ 2 นำสืบว่า ก่อนโจทก์ฟ้องคดีนี้จำเลยที่ 2 อยู่ที่กรุงเทพมหานครค้าขายวัตถุโบราณระหว่างกรุงเทพมหานคร จังหวัดสุโขทัย และจังหวัดเชียงใหม่ ภูมิลำเนาตามฟ้องเป็นภูมิลำเนาของสำนักงานใหญ่ที่จำเลยที่ 2 จดทะเบียนพาณิชย์ซึ่งน้องชายจำเลยที่ 2 ให้พลตำรวจประยูร พลายด้วง อาศัยอยู่จำเลยที่ 2 ไม่รู้จักพลตำรวจประยูร จำเลยที่ 2 ไม่ทราบว่าถูกฟ้องคดีนี้เพิ่งทราบเมื่อจำเลยที่ 2 มาที่จังหวัดระนองจึงพบหมายบังคับคดีปิดไว้ที่บ้านดังกล่าว

โจทก์ทั้งสามนำสืบว่า จำเลยที่ 2 จดทะเบีนพาณิชย์โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ตามที่ระบุในฟ้องจนบัดนี้ก็ไม่เคยขอยกเลิก

พิเคราะห์แล้ว จำเลยที่ 2 มีสำเนาทะเบียนบ้านมาแสดงเป็นหลักฐานว่าจำเลยที่ 2 มีภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านเลขที่ 1872/6 แขวงบางลำภูล่าง เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน2520 ส่วนภูมิลำเนาของจำเลยที่ 2 ตามฟ้องเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ในการประกอบพาณิชยกิจไม่ใช่ภูมิลำเนาของจำเลยที่ 2 แม้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 74(2) จะบัญญัติให้ส่งคู่ความ ณ ภูมิลำเนาหรือสำนักทำการงานของคู่ความได้ แต่ก็ปรากฏตามรายงานการส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องของเจ้าหน้าที่ผู้ส่งหมายของศาลชั้นต้น ลงวันที่ 7 พฤศจิกายน 2527 ว่า ไปส่งหมายให้จำเลยที่ 2 ยังภูมิลำเนาตามฟ้องแต่ไม่พบจำเลย บุคคลในบ้านแจ้งว่าจำเลยไปอยู่จังหวัดทางภาคเหนือประมาณ 3 ปีมาแล้ว และโจทก์ก็แถลงรับว่า ระหว่างเดือนตุลาคม 2527 ถึงเดือนเมษายน 2528 จำเลยที่ 2อยู่จังหวัดสุโขทัยตามรายงานกระบวนพิจารณาลงวันที่ 7 ตุลาคม 2528แสดงว่าตัวจำเลยที่ 2 ไม่ได้อยู่ ณ สำนักทำการงานของจำเลยที่ 2ตั้งแต่วันฟ้อง การที่ศาลชั้นต้นให้ปิดหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องไว้ ณ สำนักทำการงานของจำเลยที่ 2 จึงน่าเชื่อว่าจำเลยที่ 2ไม่ทราบว่าถูกฟ้อง การที่จำเลยที่ 2 ไม่ยื่นคำให้การและไม่มาศาลในวันสืบพยานโจทก์มิได้เป็นการขาดนัดโดยจงใจ ฎีกาของโจทก์ทั้งสามฟังไม่ขึ้น"

พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้ศาลชั้นต้นรวมสั่งเมื่อมีคำพิพากษาใหม่.

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th