คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 18850/2555
พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534 ม. 4 พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 ม. 24
ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาด หลังจากนั้นจำเลยออกเช็คพิพาทตามฟ้องเพื่อชำระหนี้ค่าซื้อหลักทรัพย์ (หุ้น) แก่โจทก์ การออกเช็คพิพาทเพื่อชำระหนี้แก่โจทก์เป็นการมุ่งโดยตรงต่อการผูกนิติสัมพันธ์ขึ้นกับโจทก์ตามกฎหมายลักษณะตั๋วเงินประเภทเช็คซึ่งเป็นการกระทำเกี่ยวกับทรัพย์สินของจำเลย โดยมิใช่กรณีกระทำตามคำสั่งหรือความเห็นชอบของศาล เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ผู้จัดการทรัพย์ หรือที่ประชุมเจ้าหนี้ตามบทบัญญัติแห่ง พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 หนี้ตามเช็คพิพาทไม่สามารถบังคับได้ตามกฎหมาย การกระทำของจำเลยจึงขาดองค์ประกอบความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534 มาตรา 4 จำเลยไม่มีความผิดตามฟ้อง
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534 มาตรา 4
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว คดีมีมูล ให้ประทับฟ้อง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งลงชื่อในคำพิพากษาศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังยุติว่า จำเลยลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) จำนวนเงิน 7,169,126.25 บาท ชำระหนี้ค่าซื้อหลักทรัพย์ (หุ้น) บี เอ็น ที แก่โจทก์ แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค ก่อนหน้าที่จำเลยออกเช็ค ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาดในคดีหมายเลขแดงที่ 4802/2548 ของศาลล้มละลายกลาง และต่อมามีคำพิพากษาให้จำเลยล้มละลาย
ปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า จำเลยกระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ ที่โจทก์ฎีกาว่าศาลล่างทั้งสองรับฟังพยานหลักฐานผิดไปจากข้อเท็จจริงในสำนวนโดยข้อเท็จจริงตามคำฟ้องและทางนำสืบพยานโจทก์ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องตลอดจนพยานเอกสารฟังยุติว่า นายอาคมเป็นผู้สั่งซื้อหลักทรัพย์ (หุ้น) ในบัญชีซื้อขายหุ้นของตนเอง จำเลยเป็นเพียงผู้ออกเช็คตามฟ้องเพื่อชำระหนี้ค่าซื้อหลักทรัพย์ (หุ้น) แทนนายอาคมเท่านั้น จึงมิใช่เป็นการกระทำเกี่ยวกับทรัพย์สินและกิจการของตนตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 24 เห็นว่า โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยร่วมกระทำการกับนายอาคม ในการซื้อขายหลักทรัพย์ (หุ้น) หลายรายการผ่านทางบัญชีเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์ (หุ้น) ของนายอาคม ต่อมาจำเลยลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาพหลโยธิน จำนวนเงิน 7,169,126.25 บาท ชำระหนี้ค่าซื้อหลักทรัพย์ (หุ้น) บี เอ็น ที แก่โจทก์ซึ่งจำเลยและนายอาคมได้ร่วมกันสั่งซื้อ คำฟ้องโจทก์แสดงว่าจำเลยกับนายอาคมซื้อขายหลักทรัพย์ (หุ้น) ร่วมกัน ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องโจทก์นำนายประสิทธิ์ศิลป์ ผู้รับมอบอำนาจมาเป็นพยานเบิกความว่า จำเลยเข้ามาเกี่ยวข้องกับการชำระหนี้ค่าซื้อหลักทรัพย์ (หุ้น) กับโจทก์เป็นผู้สั่งจ่ายเช็คชำระหนี้ค่าซื้อหลักทรัพย์ (หุ้น) แทนนายอาคม โดยนายอาคมสั่งซื้อหลักทรัพย์ (หุ้น) บี เอ็น ที จำนวน 13,000,000 หุ้น รวมค่านายหน้าและค่าภาษีแล้ว เป็นเงิน 7,169,126.25 บาท ดังนี้ ข้อเท็จจริงตามที่โจทก์กล่าวในฟ้องและที่โจทก์นำพยานเข้าไต่สวนจึงแตกต่างกันอยู่ในข้อที่จำเลยเป็นผู้สั่งจ่ายเช็คชำระหนี้ค่าซื้อหลักทรัพย์ (หุ้น) แทนนายอาคม หรือว่าเป็นผู้สั่งจ่ายเช็คชำระหนี้ค่าซื้อหลักทรัพย์ (หุ้น) บี เอ็น ที แก่โจทก์ซึ่งจำเลยและนายอาคมได้ร่วมกันสั่งซื้อ ข้อเท็จจริงไม่อาจรับฟังเป็นที่ยุติได้ การที่ศาลชั้นต้นรับฟังข้อเท็จจริงยุติตามคำฟ้องจึงไม่ชอบ แต่กระนั้นก็ตาม เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาดตั้งแต่วันที่ 22 พฤศจิกายน 2548 หลังจากนั้นจำเลยออกเช็คพิพาทตามฟ้องเพื่อชำระหนี้ค่าซื้อหลักทรัพย์ (หุ้น) แก่โจทก์ การออกเช็คพิพาทเพื่อชำระหนี้แก่โจทก์เป็นการมุ่งโดยตรงต่อการผูกนิติสัมพันธ์ขึ้นกับโจทก์ตามกฎหมายลักษณะตั๋วเงินประเภทเช็คซึ่งเป็นการกระทำเกี่ยวกับทรัพย์สินของจำเลย โดยมิใช่กรณีกระทำตามคำสั่งหรือความเห็นชอบของศาล เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ผู้จัดการทรัพย์ หรือที่ประชุมเจ้าหนี้ตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 ดังนั้น หนี้ตามเช็คพิพาทไม่สามารถบังคับได้ตามกฎหมาย การกระทำของจำเลยจึงขาดองค์ประกอบความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534 มาตรา 4 จำเลยไม่มีความผิดตามฟ้อง ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษามา ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา อ.891/2553
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ชื่อคู่ความ โจทก์ - บริษัทหลักทรัพย์ ซิกโก้ จำกัด (มหาชน) จำเลย - นางสาวชรัชพรหรือรัฐพร กองทอง
ชื่อองค์คณะ ภาภูมิ สรอัฑฒ์ สิงห์พล ละอองมณี พิทักษ์ คงจันทร์
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ตัดสิน ศาลแขวงดุสิต - นายวิทูร จันทร์แจ้งดี ศาลอุทธรณ์ - นายธีระพล ศรีอุดมขจร