ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยในขณะดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ดำเนินการจ้างพิมพ์ธนบัตรและสั่งจ่ายเงินราคาธนบัตรฝ่าฝืนมติของคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทยและฝ่าฝืนมติของคณะรัฐมนตรีเป็นการกระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ผิดกฎหมายทำให้โจทก์เสียหาย ขอให้ศาลบังคับจำเลยชดใช้เงิน 714,285.99 บาทแก่โจทก์รวมทั้งดอกเบี้ย

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นเห็นว่าจำเลยมิได้กระทำการอันเป็นผิดกฎหมายแต่อย่างใด จึงไม่ต้องรับผิดเพื่อละเมิด พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์ฟ้องให้จำเลยรับผิดชดใช้คืนเงินที่จำเลยในฐานะผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยได้ทำไว้กับบริษัท ซีโคล เป็นเงินผลประโยชน์ของทุนสำรองเงินตรา ซึ่งได้มอบให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทยและฝากอยู่ที่ธนาคารเฟเดอรัลรีเซิร์ฟ แห่งนิวยอร์คสหรัฐอเมริกา ทุนสำรองเงินตรานี้ พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2485 ได้บัญญัติให้มอบแก่ธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งตามประกาศกระทรวงการคลังก็ปรากฏว่าทุนสำรองเงินตรานี้ได้มอบให้ธนาคารแห่งประเทศไทยไปแล้ว จึงพ้นจากความรับผิดชอบของกระทรวงการคลังและเมื่อได้พิเคราะห์บทบัญญัติพระราชบัญญัติเงินตรา พ.ศ. 2501 มาตรา 26, 27 และ 28 แล้ว ย่อมจะเห็นได้ว่าทุนสำรองเงินตรานั้นธนาคารแห่งประเทศไทยมีอำนาจหน้าที่จะต้องรักษาและเป็นสินทรัพย์ของธนาคารแห่งประเทศไทยที่จะต้องกันไว้เป็นส่วนหนึ่งต่างหากจากสินทรัพย์อื่น ๆ และจะนำไปใช้จ่ายได้ก็เฉพาะตามที่กฎหมายกำหนดไว้หาได้เกี่ยวข้องกับอำนาจและหน้าที่ของกระทรวงการคลังไม่ เมื่อจำนวนเงินที่โจทก์ฟ้องให้จำเลยใช้คืนในคดีนี้เป็นเงินผลประโยชน์อันเกิดจากทุนสำรองเงินตรา ผู้มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายที่จะเรียกร้องเงินรายนี้คืนจากจำเลยก็คือธนาคารแห่งประเทศไทยโจทก์ที่ 1 หาใช่กระทรวงการคลังโจทก์ที่ 2 ไม่

ข้อที่โจทก์ฎีกาว่า จำเลยจะต้องรับผิดฐานละเมิดนั้น เห็นว่าโจทก์ไม่มีพยานหลักฐานมาแสดงให้เห็นได้ว่าจำเลยได้รับอามิสสินจ้างจึงไม่มีทางจะให้รับฟังว่าจำเลยได้รับอามิสสินจ้างดังที่โจทก์อ้างนอกจากนี้จำเลยในฐานะผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยได้รับคำสั่งจากหัวหน้าคณะปฏิวัติให้มีอำนาจเต็มในการพิจารณาทำสัญญาจ้างพิมพ์ธนบัตรกับบริษัทซีโคล คำสั่งนี้เป็นคำสั่งในระหว่างปฏิบัติและยังมิได้มีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี จึงย่อมเป็นคำสั่งที่มีผลบังคับเด็ดขาดในทางบริหาร เมื่อจำเลยได้รับคำสั่งให้มีอำนาจเต็มในการทำสัญญารายนี้ แม้จะถือว่าเรื่องพิมพ์ธนบัตรจำเลยจะต้องเสนอขออนุมัติต่อคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทยเสียก่อนตามมติคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทยดังที่โจทก์กล่าวอ้าง ก็เห็นว่ามติของคณะกรรมการหาอาจลบล้างคำสั่งของหัวหน้าคณะปฏิวัติไม่ การที่จำเลยปฏิบัติไปตามคำสั่งนั้นจึงมิใช่เป็นการผิดกฎหมายอันจะเข้าขั้นเป็นการละเมิดได้แต่อย่างใด ฉะนั้นที่จำเลยจ่ายเงินล่วงหน้าให้บริษัทซีโคลไปตามสัญญาจ้างพิมพ์ธนบัตรจึงเป็นการจ่ายที่ถูกต้องตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยรับผิดฐานละเมิดได้

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th