ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 188, 91

จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ

ระหว่างพิจารณาห้างหุ้นส่วนจำกัดโรงกลึงโลหะสันติผู้เสียหายขอเข้าร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยการ ศาลชั้นต้นอนุญาต

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง

โจทก์และโจทก์ร่วมอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ร่วมฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งลงชื่อในคำพิพากษาศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงฟังได้ในเบื้องต้นว่า จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างของโจทก์ร่วม มีหน้าที่ส่งสินค้าและเก็บเงินค่าสินค้ามามอบให้แก่โจทก์ร่วม ส่วนจำเลยที่ 2เป็นคนรักของจำเลยที่ 1 เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2529 โจทก์ร่วมให้จำเลยที่ 1 นำเครื่องเร้าเตอร์ ซึ่งเป็นเครื่องมือสำหรับแกะสลักไม้ 1 เครื่อง ราคา 42,000 บาท ไปส่งมอบให้แก่บริษัทดี.เค.อุตสาหกรรม จำกัด ลูกค้าของโจทก์ร่วม เมื่อส่งสินค้าแล้วจำเลยที่ 1 นำใบวางบิลเอกสารหมาย จ.6 ที่บริษัทลูกค้าออกให้มามอบให้แก่โจทก์ร่วม ต่อมาวันที่ 15 เมษายน 2529 จำเลยที่ 1นำบิลเงินสดและใบส่งของเอกสารหมาย จ.4 กับใบวางบิลเอกสารหมาย จ.6ไปเก็บเงินค่าสินค้าจากบริษัทลูกค้า ลูกค้าได้ออกเช็คเอกสารหมาย จ.7มอบให้จำเลยที่ 1 นำมามอบให้แก่โจทก์ร่วม จำเลยที่ 1 นำเช็คเอกสารหมาย จ.7 ไปเข้าบัญชีเงินฝากของจำเลยที่ 2 มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ร่วมว่า จำเลยทั้งสองกระทำผิดตามฟ้องหรือไม่การที่จำเลยที่ 1 เอาใบวางบิลเอกสารหมาย จ.6 กับบิลเงินสดและใบส่งของเอกสารหมาย จ.4 ซึ่งเป็นเอกสารของโจทก์ร่วมไปเก็บเงินค่าสินค้าจากบริษัทลูกค้าของโจทก์ร่วม โดยมีเจตนาจะเอาเงินค่าสินค้าเป็นของตน เป็นการเอาไปเสียซึ่งเอกสารของโจทก์ร่วมในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่โจทก์ร่วม และที่เอาเช็คเอกสารหมาย จ.7ที่บริษัทลูกค้าของโจทก์ร่วมสั่งจ่ายชำระหนี้ค่าสินค้า ให้แก่โจทก์ร่วมไปเข้าบัญชีเพื่อเรียกเก็บเงินตามเช็คแล้วเบิกเงินไปเป็นของตนเป็นการทำให้เช็คเอกสารหมาย จ.7 ซึ่งเป็นเอกสารของโจทก์ร่วมไร้ประโยชน์ที่จะใช้ได้อีก จำเลยที่ 1 จึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 188 ศาลล่างทั้งสองพิพากษายกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 1 มานั้น ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาของโจทก์ร่วมที่เกี่ยวกับจำเลยที่ 1 ฟังขึ้น"

พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 188 การกระทำเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 โดยวางโทษจำคุกกระทงละ 6 เดือน รวมสองกระทงเป็นจำคุก 12 เดือน นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th