ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง
คำปรึกษามากกว่า
10,000+
ทนายความตัวจริง
500+


โจทก์ทั้งหกสำนวนฟ้องขอให้บังคับจำเลยจ่ายค่าล่วงเวลา
จำเลยทั้งหกสำนวนให้การว่า งานที่จำเลยจ้างโจทก์ทั้งหกทำเป็นงานขนส่ง โจทก์ทั้งหกไม่มีสิทธิได้รับค่าล่วงเวลา แต่มีสิทธิได้รับค่าจ้างสำหรับการทำงานเกินเวลาทำงานปกติ
วันนัดพิจารณา คู่ความแถลงรับข้อเท็จจริงกันว่า หากคดีฟังได้ว่างานที่จำเลยจ้างโจทก์ทั้งหกเป็นงานขนส่ง จำเลยค้างจ่ายค่าจ้างโจทก์ทั้งหกเป็นเงิน 193.50 บาท 125.75 บาท 147 บาท 34.50 บาท565.25 บาท และ 152.75 บาท ตามลำดับ หากฟังไม่ได้ว่าเป็นงานขนส่งจำเลยค้างจ่ายค่าจ้างโจทก์ทั้งหกเป็นเงิน 290.25 บาท 188.65 บาท220.50 บาท 51.75 บาท 847.87 บาท และ 228.75 บาท ตามลำดับ
ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า งานที่จำเลยจ้างโจทก์ทั้งหกเป็นงานขนส่ง พิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าจ้างสำหรับการทำงานเกินเวลาทำงานปกติตามที่คู่ความแถลงรับกันแก่โจทก์ทั้งหก
โจทก์ทั้งหกสำนวนอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงาน ข้อ 3(2) ซึ่งให้นายจ้างประกาศกำหนดเวลาทำงานปกติของลูกจ้างที่เกี่ยวกับงานขนส่ง ได้ให้ความหมายของงานขนส่งว่า"งานขนส่ง" หมายความว่า การลำเลียงหรือเคลื่อนย้ายบุคคลหรือสิ่งของด้วยเครื่องอุปกรณ์การขนส่งใน คดีนี้ โจทก์ทั้งหกเป็นลูกจ้างจำเลยในตำแหน่งพนักงานส่งของมีหน้าที่ติดไปกับรถของจำเลยเพื่อส่งสินค้าให้แก่ลูกค้าของจำเลยตามคำสั่งของจำเลย ซึ่งสินค้าที่โจทก์ทั้งหกนำไปส่งให้แก่ลูกค้านั้น เป็นสินค้าของจำเลยเอง ไม่ใช่เป็นการลำเลียงหรือเคลื่อนย้ายบุคคลหรือสิ่งของทั่ว ๆ ไป ลักษณะงานที่โจทก์ทั้งหกทำจึงไม่ใช่งานขนส่งตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้ม ครองแรงงาน ข้อ 3(2) จำเลยต้องจ่ายค่าล่วงเวลาให้แก่โจทก์ทั้งหก ซึ่งจำนวนเงินค่าล่วงเวลาที่จำเลยค้างชำระให้แก่โจทก์ทั้งหกนั้นเป็นไปตามที่โจทก์ทั้งหกและจำเลยแถลงรับกัน
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยจ่ายค่าล่วงเวลาแก่โจทก์ทั้งหก.
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา







