ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง
คำปรึกษามากกว่า
10,000+
ทนายความตัวจริง
500+


คดีทั้งสองสำนวนนี้ศาลชั้นต้นสั่งให้รวมการพิจารณา โดยให้เรียกผู้คัดค้านทั้งสองสำนวนนี้รวมกันว่าผู้คัดค้านที่ 1 ถึงที่ 50 ตามลำดับเดิม (ผู้คัดค้านที่ 23 และผู้คัดค้านที่ 42 เป็นบุคคลเดียวกัน)
ผู้ร้องยื่นคำร้องทั้งสองสำนวนขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดของนายกริช และผู้คัดค้านที่ 1 กับพวก จำนวน 225 รายการ คือ รถจักรยานยนต์และรถยนต์ รวมราคาประเมินประมาณ 6,266,000 บาท และรถจักรยานยนต์จำนวน 46 รายการ รวมราคาประเมิน 667,500 บาท พร้อมดอกผลหรือทรัพย์สินที่เกิดขึ้นตกเป็นของแผ่นดิน
ศาลชั้นต้นนัดไต่สวนและประกาศตามกฎหมายแล้ว
ผู้คัดค้านที่ 1 ยื่นคำคัดค้านขอให้คืนทรัพย์สินที่ยึดไว้แก่ผู้คัดค้านที่ 1
ผู้คัดค้านที่ 2 ถึงที่ 43 ยื่นคำคัดค้านขอให้คืนทรัพย์สินแก่ผู้คัดค้านที่ 2 ถึงที่ 43
ผู้คัดค้านที่ 44 ถึงที่ 50 ยื่นคำร้องเข้ามาในคดี แต่ไม่สืบพยาน
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้รถจักรยานยนต์จำนวน 258 คัน และรถยนต์จำนวน 13 คัน รวมราคาประเมินประมาณ 6,933,500 บาท พร้อมดอกผลตามบัญชีรายการทรัพย์สินและบัญชีรายการทรัพย์สินที่แก้ไขเอกสารหมาย ร.10 ร.10/1 และ ร.31 ตกเป็นของแผ่นดินตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 51 วรรคหนึ่ง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
ผู้คัดค้านที่ 3 ถึงที่ 7 ที่ 11 ที่ 14 ที่ 16 ที่ 17 และที่ 20 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกคำร้องของผู้ร้อง ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลให้เป็นพับ
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาคณะคดีปกครองวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของผู้ร้องว่า การกระทำของบริษัทกริชอินทรา (1989) จำกัด นายกริช ผู้คัดค้านที่ 1 นายกิตติ และนายนฤทธิ์ ในข้อหาร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนัน (ไพ่ป๊อกแปดป๊อกเก้า) พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาตที่พนักงานอัยการฟ้องผู้คัดค้านที่ 1 นายกิตติ และนายนฤทธิ์ ต่อศาลจังหวัดพิษณุโลกนั้นเป็นการกระทำที่เป็นความผิดเกี่ยวกับการพนันตามกฎหมายว่าด้วยการพนัน เฉพาะความผิดเกี่ยวกับการเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนันโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีจำนวนผู้เข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นแต่ละครั้งเกินกว่าหนึ่งร้อยคน อันเป็นการกระทำความผิดที่มีลักษณะเป็นความผิดมูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3 (9) ตามคำร้องของผู้ร้องหรือไม่ เห็นว่า เมื่อข้อเท็จจริงไม่น่าเชื่อว่าในการเล่นแต่ละครั้งมีจำนวนผู้เข้าเล่นการพนันเกินกว่า 100 คน ตามลักษณะสำคัญของความหมายความผิดมูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3 (9) ผู้ร้องจึงไม่มีอำนาจยื่นคำร้องขอให้ทรัพย์สินตามเอกสารหมาย ร.10 ร.10/1 และ ร.31 ตกเป็นของแผ่นดินตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 49 และศาลไม่มีอำนาจที่จะดำเนินการตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 51 ได้ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำร้องของผู้ร้องโดยให้มีผลไปถึงผู้คัดค้านทุกคนที่มิได้อุทธรณ์ด้วยนั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของผู้ร้องฟังไม่ขึ้น
อนึ่ง ตามที่ได้มีพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2558 แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 3 นิยามคำว่า "ความผิดมูลฐาน" (9) เป็นความว่า "ความผิดเกี่ยวกับการพนันตามกฎหมายว่าด้วยการพนัน เฉพาะความผิดเกี่ยวกับการเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนันโดยไม่ได้รับอนุญาตโดยมีวงเงินในการกระทำความผิดรวมกันมีมูลค่าตั้งแต่ห้าล้านบาทขึ้นไป หรือเป็นการจัดให้มีการเล่นการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์" ลักษณะความผิดตามความหมายที่แก้ไขมิได้ยึดถือจำนวนผู้เล่นการพนันในแต่ละครั้ง และลดวงเงินในการกระทำความผิดเป็นรวมกันมีมูลค่าตั้งแต่ห้าล้านบาทขึ้นไป แตกต่างจากกฎหมายขณะกระทำความผิด และแม้พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 สามารถนำกฎหมายที่แก้ไขใหม่ย้อนหลังไปบังคับแก่การกระทำความผิดที่เกิดขึ้นก่อนกฎหมายที่แก้ไขได้ก็ตาม แต่ผู้ร้องยังคงบรรยายคำร้องตามกฎหมายขณะกระทำความผิด คืออ้างเหตุการเล่นการพนันที่มีจำนวนผู้เข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นแต่ละครั้งเกินกว่า 100 คน และโดยที่พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 59 วรรคหนึ่ง บัญญัติเป็นใจความว่า ในการดำเนินการทางศาลเกี่ยวกับทรัพย์สิน ให้นำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับโดยอนุโลม ศาลฎีกาจึงมิอาจนำลักษณะการกระทำตามความหมายของกฎหมายที่แก้ไขใหม่มาชี้ขาดคดีได้ เพราะจะเป็นการเกินไปกว่าหรือนอกจากที่ปรากฏในคำร้อง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นฎีกาให้เป็นพับ
หมายเลขคดีดำศาลฎีกา ปค.2-3/2562
แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา








