ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องมีใจความว่า โจทก์เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัดบัวไลจำเลยเคยเป็นลูกจ้างของโจทก์ เมื่อระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2510 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2510 ได้มีคนร้ายลักเอาเอกสารต่าง ๆ ซึ่งเก็บอยู่ในห้างหุ้นส่วนไป วันที่ 23 สิงหาคม 2510 เวลากลางวัน จำเลยได้นำเอกสารที่ถูกลักไปมอบให้พันตำรวจโทรัตน์ เอกะวิภาต ทั้งนี้โดยจำเลยได้ลักเอาเอกสารไปหรือรับเอกสารไว้โดยรู้ว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำผิดกฎหมาย

เมื่อประมาณเดือนกรกฎาคม 2510 จำเลยได้โทรศัพท์มาขู่เข็ญให้โจทก์ยอมให้เงินหนึ่งแสนบาทแก่จำเลย ถ้าไม่ให้จำเลยจะนำความลับในเอกสารทางการค้าออกเปิดเผยเพื่อให้ห้างหุ้นส่วนจำกัดบัวไลเสียชื่อเสียงและจะดักทำร้ายโจทก์ จนโจทก์ผู้ถูกข่มขืนใจยอมเช่นว่านั้นเหตุเกิดที่ตำบลและอำเภอป้อมปราบศัตรูพ่าย จังหวัดพระนคร ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 337, 338, 335(8) (11) 357

ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วสั่งว่าคดีมีมูลให้ประทับฟ้อง

จำเลยให้การปฏิเสธและต่อสู้ว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุม

ศาลชั้นต้นเห็นว่าฟ้องไม่เคลือบคลุม สำหรับข้อหาลักทรัพย์หรือรับของโจรนั้นยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้กระทำผิด สำหรับข้อหากรรโชกฟังได้ว่าจำเลยได้ขู่เข็ญเอาเงินหนึ่งแสนบาทจากโจทก์ และโจทก์ยอมจะให้เงินสองสามหมื่นบาทแก่จำเลยจริง พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 337, 338 ลงโทษตามมาตรา 338ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด ให้จำคุก 2 ปี ข้อหาลักทรัพย์และรับของโจรกับคำขออื่นของโจทก์ให้ยกเสีย

โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์หรือรับของโจรด้วย

จำเลยอุทธรณ์ว่าฟ้องเคลือบคลุม โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องและข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้กระทำผิดตามฟ้อง

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกาว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหาย ไม่มีอำนาจฟ้อง ฟ้องของโจทก์เคลือบคลุม

ศาลฎีกาเห็นว่า การที่จำเลยได้ขู่เข็ญข่มขืนใจโจทก์ว่าจะทำอันตรายต่อชื่อเสียงของห้างหุ้นส่วนจำกัดบัวไล ซึ่งเป็นนิติบุคคลและเป็นบุคคลที่ 3 และได้ขู่เข็ญข่มขืนใจโจทก์ว่าจะเปิดเผยความลับซึ่งการเปิดเผยนั้นจะทำให้ห้างหุ้นส่วนจำกัดบัวไลเสียหาย จึงถือว่าโจทก์เป็นผู้เสียหายตามความในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 2(4) แล้ว โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องคดีในความผิดทั้งสองฐานดังกล่าวมาได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 28 ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น

ที่จำเลยฎีกาว่าฟ้องของโจทก์เคลือบคลุมนั้น เห็นว่าฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม ฎีกาของจำเลยข้อนี้จึงตกไป

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th