ค้นหาฎีกา

ระบุ เลขฎีกา หรือ คำค้นหา

สารบัญ

ปรึกษาทนายความได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย
แชทกับทนายส่วนตัว
การันตีได้รับคำตอบทันทีจากทนายตัวจริง

คำปรึกษามากกว่า

10,000+

ทนายความตัวจริง

500+

เริ่มต้นปรึกษา
รีวิว 9,000+ คน
Legardy App
เนื้อหาฉบับเต็ม

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ขอกู้เงินโดยเบิกเงินเกินบัญชีจากโจทก์ต่อมาจำเลยได้ทำหนังสือรับรองหนี้สินว่าเป็นหนี้โจทก์รวม 37,684 บาทและขอผ่อนชำระเดือนละ 1,500 บาท เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม 2506โดยยอมเสียดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี และยอมให้คิดดอกเบี้ยทบต้นตามประเพณีการเบิกเงินเกินบัญชีของธนาคาร จำเลยมิได้ปฏิบัติตามที่รับรองไว้ โจทก์ทวงถาม จำเลยไม่ชำระ ขอให้ศาลพิพากษาบังคับให้จำเลยชำระหนี้

จำเลยให้การและแก้ไขคำให้การว่า ผู้รับมอบอำนาจของโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องตามข้อบังคับของโจทก์ เดิมจำเลยเป็นลูกค้าฝากเงินกระแสรายวันกับโจทก์ ภายหลังโจทก์ยอมให้จำเลยเบิกเงินเกินบัญชีเดินสะพัดกับโจทก์ ต่อมาโจทก์บอกเลิก โดยเรียกร้องให้จำเลยใช้หนี้เบิกเงินเกินบัญชีต่อไป และให้จำเลยผ่อนชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยให้โจทก์เดือนละอย่างต่ำ 1,500 บาท ภายในสิ้นเดือนของทุกเดือน ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2506 เป็นต้นไป แต่มิได้ตกลงให้คิดดอกเบี้ยทบต้น โจทก์มิได้ใช้สิทธิเรียกร้องนับแต่เดือนมีนาคม 2506 จนถึงวันฟ้องเป็นเวลาเกินกว่า 5 ปี คดีขาดอายุความ ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระต้นเงินและดอกเบี้ยรวม 47,572 บาท และดอกเบี้ยร้อยละ 14 ต่อปี ในต้นเงิน 27,148 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ยกฟ้องโจทก์

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยทำหนังสือรับรองหนี้สินว่ายังเป็นหนี้โจทก์ทั้งต้นเงินและดอกเบี้ยรวม 37,685 บาท และยอมผ่อนชำระต้นเงินและดอกเบี้ยเป็นรายเดือนอย่างต่ำเดือนละ 1,500 บาท ให้โจทก์ภายในสิ้นเดือนของทุก ๆ เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม 2506 เป็นต้นไปถือได้ว่าหนังสือรับรองหนี้สินดังกล่าวนี้โจทก์จำเลยได้ตกลงเปลี่ยนแปลงวิธีการชำระหนี้ใหม่ โดยเรียกเอาดอกเบี้ยค้างส่งและเรียกเอาจำนวนเงินอันพึงส่งเพื่อผ่อนทุนคืนเป็นงวด ๆ โจทก์มีสิทธิเรียกร้องต้นเงินคืนได้แต่ละงวด ๆ ละเดือน และสิทธิเรียกร้องของโจทก์เรียกร้องได้งวดละ 1,500 บาท เริ่มวันที่ 31 มีนาคม 2506 เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2508 เป็นงวดสุดท้าย โจทก์ฟ้องคดีเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2514 เป็นเวลาเกิน 5 ปี นับแต่กำหนดวันชำระงวดสุดท้ายเป็นต้นมา ฟ้องของโจทก์จึงขาดอายุความ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 166 (อ้างฎีกาที่ 581/2494)

พิพากษายืน

หมายเลขคดีดำศาลฎีกา

แหล่งที่มา กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

sanook ข่าวสด มติชน spring

ปรึกษาทนายตัวจริง

สอบถามได้ทุกเรื่องราวทางกฎหมาย

"โดนโกง โดนประจาน" ปรึกษาได้ในคลิกเดียว

ทนายพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.
4.8/5
รีวิวจากผู้ใช้งานจริงมากกว่า 16000 รีวิว
เข้าร่วมแพลตฟอร์มทนายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย
งานปรึกษามากกว่า 20,000 งานต่อปี
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันหรือแม่นยำกว่า เราไม่รับประกันหรือรับประกันเกี่ยวกับความถูกต้อง ความสมบูรณ์ หรือความเพียงพอของข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้หรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของรัฐ โปรดตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ : www.krisdika.go.th, deka.supremecourt.or.th